“ความเสี่ยง ผสม โควิด-19”

“ความเสี่ยง ผสม โควิด-19”
#อยากลงทุนต้องรู้ความเสี่ยงอยากมีคุณคนเดียวต้องทำยังไง
ย้อนเวลาไปก่อนการมาของโควิด-19
หากพอนึกออกตอนนั้นเศรษฐกิจบ้านเราทรงไม่ค่อยดีอยู่แล้ว
ท่องเที่ยว ส่งออก ชะลอตัว การลงทุนล่าช้า ธุรกิจปิดกิจการ
ภาคเกษตรตกต่ำ ภัยแล้ง หนี้ครัวเรือนสูง กำลังซื้อหดตัว ตกงานเพิ่ม ฯลฯ
ปัจจัยลบทั้งหลายผุดขึ้นมาเรื่อย ยังไม่ทันแก้ไขใดๆไวรัสก็มากระหน่ำไปอีก
เศรษฐกิจเลยแย่เฉียบพลัน อย่างที่เราเจอกันอยู่
สรุปง่ายๆ คือ ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก น่าจะเป็นอะไรที่ชัด
ตอนนี้ทุกคนก็ลุยแก้โควิด-19 กันหนักมาก เพื่อให้ผ่านไปด้วยดี
และวันนี้ฮะ ไม่มีผู้ติดเชื้อ ไม่มีคนตาย
แทม ทา ดา แดม แทม แท่ม แทม แทม แท้ม !!
อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งดีใจไป เพราะโควิดไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ถล่มเราอยู่
อย่าลืมผสมความวัวความควายก่อนหน้านี้เข้าไป
ผลที่ได้ คือ ความเสี่ยงยังคงหนักหนาในช่วงนี้ ไปจนถึงระยะยาว
น่ากลัวสุดตรงที่มันคาดเดาผลกระทบไม่ได้ว่าหนักแค่ไหน
มาดูความเสี่ยงอื่นๆที่ผสมแล้วกับโควิดไปพร้อมๆกัน
แล้วไปประมาณการเอาเองแล้วกันเน้ออ ว่ามันกระทบการลงทุนส่วนตัวหรือไม่
• สภาพคล่อง ราคาหุ้น เปลี่ยนแปลงรวดเร็วไปมา (ผันผวน) ทำให้เม็ดเงินการลงทุนในตลาดลดลง บางส่วนดอยอยู่ไม่มีตังค์ บางส่วนย้ายเงินหนีไปตลาดอื่นที่ผลตอบแทนดีกว่า นิ่งกว่า หรือไม่ก็ถือเงินสดรอความชัดเจน ด้วยสภาพคล่องที่ไม่ปกตินี้มันอาจเป็นเหตุให้ไปไม่ถึงไหน ราคาหุ้นหลายตัวอยู่ในระดับที่ไม่สมเหตุผล
• ราคาน้ำมัน ต่ำต่อเนื่องอย่างที่เราเห็นด้วยตาตัวเองเพราะความต้องการใช้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ มันหดหายไปเยอะเหลือเกิน แม้พวกบิ๊กโอเปกจะพร้อมใจกันลดกำลังผลิต แต่ราคายังถูกกดดันจากโควิด-19 ที่เป็นตัวเบรคกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ดี ซึ่งมันสร้างผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจน้ำมันใหญ่ๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
• หนี้เสีย เดิมทีเคยอยู่ในเกณฑ์ไม่เป็นอะไร แต่ในตอนนี้น่าห่วงทั้งหนี้ระดับบุคล ภาคธุรกิจ องค์กรขนาดใหญ่ เพราะ “ใครๆก็มีสิทธิ์เบี้ยว” เบี้ยวกันเป็นวงใหญ่ตั้งแต่สินเชื่อแบงก์ ไปยันหุ้นกู้ต่างๆ สาเหตุไม่มีไรมากหาตังค์ได้น้อยลง หมุนไม่ทัน สภาพคล่องในระบบถูกเทไปลงทุนในตราสารภาครัฐที่ช่วงนี้ให้ผลตอบแทนสูง
• ผลประกอบการไตรมาส 2 ไตรมาสแรกเห็นกันแล้วเทรนด์ส่วนใหญ่หดตัว ไปจนถึงขาดทุน แต่ไตรมาสนี้คงหนักกว่าเพราะเป็นช่วงรับเต็ม ธุรกิจเดินหน้าไม่ได้
• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีกันทั่วโลก เราเองก็มีการอัดฉีดเงินเข้ามาในระบบ แต่มันอาจไม่เพียงพอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติได้ (ปกติคือทรงไม่ค่อยดีที่บอกไปตอนต้นนะฮะ) เพราะผลกระทบมันอาจยาวนานและคาดการณ์ความหนักไม่ได้ แถมหากกระตุ้นมากไประยะยาวอาจทำให้เสถียรภาพทางการเงินแย่ลง
• ภัยแล้ง อันนี้ไม่เคยจากเราไปไหนนะ อย่างที่รู้ปีนี้แล้งหนักสุดในรอบหลายสิบปี ผลกระทบของมันคือแม้โควิดจะหายแต่ปลูกอะไรไม่ได้ ก็ไม่มีตังค์ใช้จ่ายอยู่ดี แล้วกำลังซื้อในต่างจังหวัดถือว่ามากโขอยู่ จำนวนครัวเรือนภาคเกษตรคิดเป็นกำลังซื้อ 1 ใน 3 ของประเทศเลย ซึ่งมันกระทบสินค้าบริการทุกประเภทชัวร์
• ท่องเที่ยว พระเอกตลอดการของเศรษฐกิจที่เราเคยมั่นใจ ตอนนี้แผนฟื้นภาคธุรกิจนี้มีแต่ “ความมั่นใจ” ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมา เรากำลังมั่นใจตอนที่มีการกลับมาระบาดระลอกสอง ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังสูงต่อเนื่อง แต่มาตรการแก้ไข กระตุ้นท่องเที่ยวยังไม่มี บัดนาวผู้ประกอบการก็แก้ไขกันเองด้วยการปลดคนและปิด
#เสี่ยวCREWเป็นพวกมองโลกแง่ร้ายไว้ก่อน เราอาจกำลังเดินจากจุดที่เรียกว่า แย่เฉียบพลัน ไปสู่ แย่โคตรๆ แต่ก็แอบหวังว่าทั้งหมดอาจดีกว่านี้ในเร็ววัน “ไม่ประมาทการ์ดอย่าตก” กันดีกว่าฮะ
ข้อมูลจาก: บล.ไทยพาณิชย์ / บล.หยวนต้า / บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์