ความแน่นอนในตลาดหุ้น ?

ความแน่นอนในตลาดหุ้น ? #เทรดหุ้นต้องดูจังหวะรักคุณนะครับเป็นจังหวะของหัวใจ #ผันผวน #ฝากไว้ให้คิสส
ตลาดหุ้นไทยวิ่งพรวดพราดอยู่พักใหญ่ เผลอแพบเดียวดัชนีทะลุ 1,500 จุดเฉย!! (เกินเป้าปี 64 ที่โบรกฯบางแห่งทำนายไว้) ด้วยเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นที่ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในภูมิภาคจะค่อยๆฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เศรษฐกิจไทยพ้นจุดต่ำสุด ผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่มีแนวโน้มฟื้นตัวตาม เหตุเหล่านี้ทำให้เกิดการปรับมุมมองการลงทุนตลาดหุ้นไทยในเชิงบวก และปรับราคาหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวเพิ่มขึ้น
แต่ช่วงนี้...ตลาดเริ่มแกว่งๆ เดี๋ยวลบ เดี๋ยวบวก อยู่เรื่อย!!
ด้วยเหตุผลใหม่ คือ “ไม่มีปัจจัยใหม่หนุนการลงทุน” และ “นักลงทุนทั่วโลกกำลังรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ของเมกา หลังโจ ไบเดนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ” (ว่ากันว่ามันใหญ่มากกกจนน่าจะทำให้เมกาดีขึ้น ที่ผ่านมาก็เก็งกันไปก่อนจนทำให้ดอลลาร์ขยับ) ตอนนี้...เลยทำให้เราเห็น นักลงทุนต่างชาติขายออกเบาๆ
และเป็นการขายทุกตลาดทั้งหุ้น ฟิวเจอร์ บอนด์ ไม่โชว์ยอดซื้อเบิ้มๆอย่างที่ผ่านมา แต่อาจไม่น่ากังวลมากนัก เพราะยังไม่มีการปรับมุมมองขนานใหญ่ต่อตลาดบ้านเราอย่างเป็นจริงเป็นจัง
บ้างก็ว่าตลาดชะลอเพราะ การขายหุ้นเพื่อขนเงินไปซื้อไอพีโอ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้า “OR”
อนาคตอันใกล้...อาจมีเหตุผลใหม่มาเพิ่ม เช่น ผลประกอบการต่ำกว่าคาดในหุ้นหลายๆตัว / พื้นฐานทางเศรษฐกิจไม่สนับสนุนการเติบโต / ธุรกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ฯลฯ
จากนั้นเมื่อมันร่วงก็อาจมีเหตุผลเชิงบวกกลับมาอีก เช่น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเมกาส่งผลดีกับภูมิภาคฯ / ธุรกิจได้รับผลดี / การเดินทางอาจฟื้นจากวัคซีน / บลา บลา บลา
เป็นเช่นนี้วนไป มีเหตุผลเป็นร้อย เป็นพันเสมอ เพื่อให้มันขึ้นหรือลง ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำเพื่อให้อยู่รอด ก็แค่อย่าฝืน ตามกระแสให้ถูกทาง
ระลึกไว้เสมอ “ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน” คำคมสุดคลาสสิคนี้ใช้กับการลงทุนได้ ทุกยุค ทุกสมัย ฮะ #ฝากไว้ให้คิสสส