ต่างชาติถล่มหุ้นไทยกว่า 1.5 แสนล้านบาท นโยบายรัฐเปลืองงบฯ ฉุดความเชื่อมั่น

ต่างชาติถล่มหุ้นไทยกว่า 1.5 แสนล้านบาท นโยบายรัฐเปลืองงบฯ ฉุดความเชื่อมั่น #ต่างชาติไม่เชื่อมั่นเลยขายหุ้นแต่ผมยังชอบคุณไม่เปลี่ยนแปลง ข้อมูลตั้งแต่ต้นปีถึง 20 ก.ย.66 (YTD) พบว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยกว่า 1.5 แสนล้านบาท สวนทางกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ซื้อสุทธิถึง 1.55 แสนล้านบาท . ทำให้ดัชนีหุ้นไทย โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนหลังแกว่งตัวไซด์เวย์อยู่แถว 1,500 จุด ทั้งที่ปกติหลังตั้งรัฐบาลใหม่ตลาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวก แต่รอบนี้กลับไม่รับข่าวเท่าไหร่นัก . หลังจากสอบถามความคิดเห็นจากบรรดานักวิเคราะห์และนักลงทุนรายใหญ่พบว่า สาเหตุสำคัญมาจาก นโยบายภาครัฐฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติในระยะสั้น . โดยนอกจากประเด็นลดราคาทั้งไฟฟ้าและน้ำมันดีเซลจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) กลุ่มพลังงานซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ของตลาดหุ้นไทยแล้ว . การพักหนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มการเงินด้วย ที่สำคัญนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ถือเป็นการใช้จ่ายที่มากเกินไปของภาครัฐฯ . เกิดความกังวลว่า จะเอาเงินมาจากไหน แหล่งที่มาเป็นอย่างไร หากเป็นการกู้อาจจะกระทบต่อหนี้สาธาระณะของประเทศให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ . การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้เงินมหาศาลในระยะสั้น โดยการแจกเงินเป็นนโยบายที่ Non-Productive . ต่างจากการลงทุนขนาดใหญ่ที่กระตุ้นการลงทุนระยะยาว เช่น โครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น . แต่การที่มุ่งเน้นแจกเงินอาจจะทำให้การใช้จ่ายคึกคักขึ้นช่วงระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนต่างชาติอาจจะไม่มั่นใจการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว . ขณะเดียวกันเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นตัวกระตุ้นให้ Fund Flow ขายออกเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มสูงต่อไป . เพราะเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่าคาด จึงทำให้เม็ดเงินลงทุนไหลไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยกว่าอย่าง พันธบัตรสหรัฐฯ . ทั้งนี้ตั้งแต่ 31 ส.ค.-20 ก.ย.66 ซึ่งเป็นช่วงที่จัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ และประกาศนโยบาย ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยเกือบทุกวัน . มีเพียงวันเดียวที่ซื้อสุทธิ 1,277 ล้านบาท ที่เหลือขายเฉลี่ยวันละกว่า 1,656 ล้านบาท สูงสุดต่อวันคือ 6,169 ล้านบาทเลยทีเดียว . นักวิเคราะห์และนักลงทุนรายใหญ่ประเมินว่าช่วงที่เหลือของปี SET Index มีโอการลงไปถึง 1,450 จุด ขณะที่กรอบบนขึ้นไปได้สูงสุดเพียง 1,620 จุดเท่านั้น . เพราะไม่มีปัจจัยบวกมาหนุนเลย แถมต่างชาติก็ยังขายหุ้นไทยต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกลุ่มที่สัดส่วนซื้อขายสูงสุดระดับกว่า 50% ในปัจจุบัน . กลยุทธ์ลงทุน ควรเลือกหุ้นเป็นรายตัวไป หาธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาล เลือกหุ้นที่แนวโน้มกำไรดีและมีปันผลต่อเนื่อง จะปลอดภัยที่สุด