ธุรกิจใต้ดินสู่ความหายนะ

ธุรกิจใต้ดินสู่ความหายนะ
#คอรัปชั่นอาจทำให้วอดวายแต่ไอดีไลน์อาจทำให้รู้จักเธอ
“เศรษฐกิจไทยปี 64 น่าจะเริ่มฟื้นตัว” เราคงไม่ได้เห็นสิ่งนี้กันแล้วเป็นแน่แท้ น่าจะพอเดากันออกว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 คงเล่นงานเราต่อไป แต่ถึงตอนนี้ยังไม่เห็นสำนักไหนกล่าวถึงผลกระทบรอบนี้ ก็ไม่รู้เกรงใจสิ่งใดกัน หรือมันหนักจนไม่อยากประเมิน
“ภาครัฐ” เองก็เหมือนเมาหมัด ทำไรไม่ชัดเจน ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน มาตรการควบคุมโรคก็เหยาะแหยะ มาตรการเยียวยา-กระตุ้นเศรษฐกิจก็ซึมจ๋อย บทลงโทษใดๆกับผู้กระทำผิดลักลอบขนแรงงานเถื่อน เปิดบ่อนก็ไม่มี ไม่รู้ แปลกใจแฮะไม่คึกคักปุ๊ปปั๊ปแบบตอนออกมาปราบม็อบเลยย
เอาเหอะ!! คงพอเดากันได้ว่าทั้งหมดที่จะเกิดคงหนักและสาหัส
คิดว่ามันจะผ่านพ้นไปได้อยู่แล้วเชียว กลับมาตกม้าตายเพราะธุรกิจสีเทาใต้ดินทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นบ่อนการพนัน ค้าผู้หญิง แรงงานเถื่อน ซึ่งธุรกิจเหล่านี้มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทั้งสิ้น และก็ทำกันมาแต่ช้านาน โดยที่ไม่มีใครไปแตะต้อง
ที่น่าเจ็บช้ำคือแม้ในยามวิกฤตเยี่ยงนี้ ก็ยังทำโดยไม่คิดถึงผลกระทบของคนหมู่มาก ขอให้พวกข้าร่ำรวยได้ผลประโยชน์เป็นพอ ประชาชนคนธรรมดาอย่างเราที่ไม่ได้เศษตังค์อะไรกับเขาด้วยสักนิด ก็ก้มหน้ารับกรรมที่ไม่ได้ก่อกันไปถ้วนหน้า
#เสี่ยวCREW ได้มีโอกาสอ่านข้อมูลชุดหนึ่งจาก “โพสต์ทูเดย์” แล้วก็อยากร้องไห้ เพราะตัวเลขรายได้จากธุรกิจใต้ดินเหล่านี้มากมายมหาศาล คิดเป็น 43% กว่าๆของมูลค่าเศรษฐกิจประเทศไทย (ข้อมูลสำรวจล่าสุดเมื่อปี 2557 จาก The Global Economy) ขณะที่อัตราเฉลี่ยของทั่วโลกจะอยู่ที่ประมาณ 27.78%
ใกล้เคียงกับตัวเลขที่เราเคยนำเหนอไปเมื่อนานแล้ว จากงานวิจัยของ ปปง. ร่วมกับ นิด้า (จัดทำในปี 2559 ตามมาตรฐานของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินFATF (Financial Action Task Force)ซึ่งระบุว่า ธุรกิจใต้ดินของประเทศไทยมีมูลค่ารวมอย่างน้อยประมาณ 30-40% ของมูลค่าเศรษฐกิจประเทศ
ลองคิดดูฮะเศรษฐกิจไทยมูลค่า 17 ล้านล้านบาท ธุรกิจใต้ดินเหล่านี้จะมีมูลค่าอยู่ประมาณ 7.3 ล้านล้านบาท (รวมทุกชนิด หวย มวย เงินกู้ มาเฟีย ฯลฯ ไม่ใช่แค่บ่อน โสเภณี แรงงาน) แล้วส่วยเข้าเจ้าหน้าที่รัฐจากธุรกิจเหล่านี้ในสถานการณ์ปกติล่ะจะเป็นเงินกี่หมื่นกี่แสนล้าน ก็คงมากมายมิใช่น้อย
ดังนั้น หากจะหยุดสักนิด หยุดสักช่วง เพื่อให้สถานการณ์มันปกติก็คงไม่อดตายมั้งฮะ ทนกินเงินเดือนจากภาษีประชาชน เงินงบประมาณไปสักพักก็น่าจะอยู่รอด เพราะก่อนหน้านี้ก็กอบโกยกันไปเยอะแล้ว มีบุญเก่าให้ควักออกมาใช้ตั้งเยอะ ผิดกับชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปที่อาการหนักกันหมด ไม่รู้จะมีงาน มีกินถึงเมื่อไหร่
เรื่องนี้มันอาจไม่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่เกี่ยวกับหุ้นใดๆหรอกฮะ แต่มันเกี่ยวกับความสูญเสียด้านคุณภาพชีวิตของเรา ความเป็นอยู่ของสังคมและเศรษฐกิจอย่างมากทีเดียว
หากธุรกิจใต้ดินบางส่วนอยู่ในระบบ ก็คงมีต้นทุนเพิ่มขึ้นสำหรับการพัฒนาประเทศ หากบางส่วนลดลงได้ ปราบปรามได้ ในระยะยาวก็จะได้ระบบการบริหารที่มีศักยภาพกว่าเดิม ได้การบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรมมากขึ้น
แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะผู้มีอำนาจ เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง คงเสียผลประโยชน์
ส่วนประชาชน ช่างแม่ง
ดูน้อยลง