ผู้ว่าแบงก์ชาติ กับ ผู้ถือหุ้นชอบแพล่ม

ผู้ว่าแบงก์ชาติ กับ ผู้ถือหุ้นชอบแพล่ม #ธนาคารไม่จ่ายปันผลไม่เจ็บเท่าเธอปันใจ #วิกฤตจะมา #เราต้องรอด ปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่งเขียนไปยืดยาวเกี่ยวกับ ความแข็งแรงของระบบธนาคารพาณิชย์ ว่ามันเป็นประโยชน์อย่างไร ในภาวะที่เศรษฐกิจมันง่อนแง่นและผันผวนมากๆ
ศุกร์หรรษาที่ผ่านมา ท่านผู้ว่าแบงก์ชาติ ก็ปล่อย Punchline เฉียบ ขอให้แบงก์งดจ่ายปันผลระหว่างกาลและงดซื้อหุ้นคืน เพื่อรักษาเงินในกระเป๋าและความแข็งแรงต่อไป เนื่องจากไม่รู้ว่าอีโควิด-19 จะยืดเยื้อ บ่อนทำลาย อีกนานเพียงใด ดังนั้นมันจึงจำเป็นอย่างมาก ที่แบงก์จะต้องมั่นคง แข็งแรง เพื่อทำหน้าที่เป็นเสาหลักในการพยุงทุกภาค ให้ผ่านพ้นวิกฤตกาลครั้งนี้ #เสี่ยวCREW โคตร Respect กับความเจ๋งครั้งนี้ของท่านผู้ว่าแบงก์ชาติฮะ จะว่าเพื่อโชว์ผลงาน ทำประโยชน์ให้ตัวเองก็คงไม่ใช่ เพราะสมัยหน้าท่านไม่เอาแล้วกับตำแหน่งนี้ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกฮะที่ท่านเจ๋ง!! ก่อนหน้านี้ ตอนเรายังไม่รู้จักโควิด ตอนระดับนโยบายยังฝันว่าจะโตเท่านู้นเท่านี้ โดยไม่เคยกล่าวถึงความเสี่ยง ท่านเคยพูดเกี่ยวกับ “หนี้ครัวเรือน” ตอนนั้นตัวเลขรายงานในระบบอยู่ที่ประมาณ 78-79% ซึ่งถือว่าสูงมากแล้ว แต่ท่านกลับบอกว่าถ้ารวมหนี้ทุกอย่างจริงๆ เช่น หนี้นอกระบบ หนี้กยศ. ฯลฯ หนี้ครัวเรือนของเราคงอยู่ที่ประมาณ 120-130% นั่นก็เป็นการส่งสัญญาณที่มากพอแล้ว ว่า เฟืองหมุนเศรษฐกิจบางตัวกำลังมีปัญหารุนแรง แต่แล้วไงอ่ะ เรื่องเงียบ!! เดิมทีก่อนมีวิกฤตนี้เรามักเห็นรายงานตัวเลข NPL ไม่สูงนัก 3% นิดหน่อย จัดว่าปลอดภัย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สูง แต่สิ่งที่ไม่ค่อยมีการพูดถึง คือ หนี้ที่จ่อจะเป็น NPL มีเพียบเลยนะฮะทั้งในภาคธุรกิจและคนทั่วไป โควิดมากระตุ้นให้อาการช็อตมันออกแรง จนทำให้มีคนเข้าโครงการพักหนี้มากมายคิดเป็นมูลค่ารวมหลายล้านล้านบาท และไม่มีใครตอบได้ว่าหนี้กลุ่มนี้จะกลายสภาพเป็น NPL มากแค่ไหน ซึ่งหากแห่กันเป็นหนี้เสียขึ้นมาก็ยับ!!ฮะ ถ้าแบงก์ไม่พัง ก็คงเกือบพัง ท่านผู้ว่าฯ คงเห็นบางอย่างแหล่ะที่เป็นสัญญาณอันตราย ดังนั้นการรักษาสภาพให้แข็งแรงจึงเป็นทางออกที่ดีสุด ธนาคารกลางหลายชาติเขาก็ทำแบบนี้กัน อย่างไรก็ตามมันก็มีคนบางประเภทออกมา แพล่ม!! ฮะ ว่า มันเป็นการแทรกแซงการดำเนินงานบ้าง ทุบหุ้นบ้าง พูดงี้คนถือหุ้นแบงก์ก็ซวยดิ ฯลฯ เห็นแล้วก็อดสังเวชไม่ได้จริงๆ เพราะไม่เข้าใจว่าท่านผู้ถือหุ้นอันทรงเกียรติเหล่านี้ อยากได้ซากธนาคารกับใบหุ้นไว้ครอบครองในระยะยาวหรืออย่างไร หากแบงก์ไม่ระวังแล้วธุรกิจพัง พวกอย่างท่านก็คงไปร้องแรกแหกกระเฌอ โทษเค้าอีก ว่า บริหารไม่ดี ผิดพลาด ไม่รู้จักระวัง บลาบลา เต็มไปหมด ตลกเนาะตอนเค้าเบรคดันขิงใส่ อ้างสิทธิ์ อ้างผลประโยชน์ตน ไม่คิดถึงส่วนรวม สรุปแม่งโทษทุกอย่าง ยกเว้นตัวเอง ใครเป็นเยี่ยงนี้อยู่ ก็เลิกเถอะฮะ เปลืองอากาศหายใจเปล่าๆ