รวมมิตรธุรกิจดิ่ง เซ่นพิษ Covid-19

รวมมิตรธุรกิจดิ่ง เซ่นพิษ Covid-19 #ไวรัสทำร้ายธุรกิจรักคนผิดทำร้ายหัวใจ #โควิด19 #ธุรกิจถดถอยเฉียบพลัน แรกๆหลายเสียงบอกว่า “โควิด-19” อ่ะไม่เท่าไหร่ สู้ “ซาร์ส” เมื่อปี 2003 ไม่ได้ แรงกว่าเยอะ!! แต่ดูเหมือนสถานการณ์ตอนนี้ ไม่น่าจะพูดอย่างงั้นได้แล้ว ยิ่งนานยิ่งบานปลายทั้งในแง่ของการแพร่ระบาด การป้องกัน และผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันต่อการทำมาหากิน การใช้ชีวิต ตอนนี้มีหลายภาคธุรกิจกำลังได้รับผลกระทบหนักอย่างเฉียบพลัน #เสี่ยวCREW รวบรวมมาให้ดูบางส่วน เผื่อเตรียมพร้อมรับแรงกระแทกกันฮะ ท่องเที่ยว ภาคธุรกิจท่องเที่ยวบ้านเรา ถือเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้บอกเลยอย่างเงียบ!! (จังหวะดีของคนไทยที่อยากเที่ยว) ผลพวงมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติงดการเดินทาง (แต่เราไม่ห้ามเข้านะ เราไม่กลัว!!) โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจีน ประเทศต้นทางของเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักที่สร้างรายได้มหาศาล การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประเมินความเสียหายช่วงครึ่งปีแรก อาจสูญเสียรายได้ แบบเบา เบา ที่ 3 แสนล้านบาท ค้าปลีก อีกหนึ่งเสาหลักระบบเศรษฐกิจมีมูลค่าคิดเป็น 16% ของจีดีพีประเทศ ตอนนี้ไวรัสจัดหนักทำลูกค้าหายไป 30% แว้วววว แถมยังมีแนวโน้มลดลงไปเรื่อยๆ กระทบต่อเนื่องมาจากการปิดตัว ลดคน ของภาคธุรกิจท่องเที่ยว เป็นผลทำให้กำลังซื้อหายไปแล้วถึง 7 หมื่นล้านบาท ว่ากันว่าธุรกิจนี้เกี่ยวเนื่องกับการทำมาหากินของคนในประเทศถึง 6.2 ล้านคน และร้านค้าขนากลาง ขนาดเล็ก อีก 450,000 ราย จากการทรุดอย่างแรง และเฉียบพลัน ตอนนี้ศูนย์การค้าใหญ่หลายแห่ง มีนโยบายช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการ ด้วยการให้ส่วนลดค่าเช่า อาทิ MBK ประกาศลดค่าเช่าพื้นที่ให้กับผู้ประกอบการตามสัดส่วนประเภทการเช่าตั้งแต่ 10-20% เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 1 มี.ค.-31 ส.ค. 2563 เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ก็ได้ช่วยเหลือผู้ที่จ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน (สัญญา 1 ปี) จะลดค่าเช่า 10-35% ตามสัดส่วนและประเภทการเช่าเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 1 มี.ค.-31 พ.ค. 63 ส่วนผู้เช่าระยะยาวเซ้ง 10 ปี ซึ่งบริษัทไม่ได้มีรายได้ค่าเช่ารายเดือนจากผู้เช่ากลุ่มนี้แล้ว แต่ก็มีความเห็นใจและเข้าใจในสถานการณ์ จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ให้ส่วนลดค่าเช่า 25% สำหรับเดือนมีนาคมนี้ Event ภาคธุรกิจจัดงานอีเวนต์ แม้จะไม่เป็นพระเอกเท่าท่องเที่ยว หรือ ค้าปลีก แต่ก็มีจำนวนบุคลากรและธุรกิจเกี่ยวเนื่องอยู่ในอุตสาหกรรมไม่น้อย บัดนาวโดนไวรัสเล่นงานหนัก การจัดงานเกือบทั้งหมดถูกเลื่อนจากไตรมาส 1-2 ไปอยู่ในช่วงไตรมาส 3-4 แทน (ถ้าไม่หยุดก็อดอีกนะฮะ) ภาวะตอนนี้เรียกง่ายๆว่า “งานงอก!!” รายได้หยุดชะงัก ธุรกิจรายเล็ก เงินทุนหมุนเวียนน้อย ค่อนข้างดำเนินธุรกิจลำบาก ลามไปยันฟรีเเลนซ์ คนออกแบบ สตาฟรันคิว ช่างไฟ เครื่องเสียง พริตตี้ พิธีกร ฯลฯ งานงอกกันหมด ประเมินว่าตลาดธุรกิจอีเวนต์ปีนี้ จะลดลงไม่ต่ำกว่า -5% เเละหากปัญหาลากยาวทั้งปีอาจลดลงถึง -15 % จากมูลค่าตลาด 13,000-14,000 ล้านบาท การลงทุน อย่างที่เห็นตลาดหุ้น การลงทุนแทบทุกประเภทติดไวรัสโซไปเซมา ผันผวนและบีบหัวใจหนักมากกกก เล่นเอาเจ็บหนักไปหลายราย (ตอนนี้ดีขึ้นนิด แต่อย่าเพิ่งไว้ใจ สงครามยังไม่จบ!!) บางรายก็กลายเป็น VI แบบไฟท์บังคับไปซะเฉย ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนหลายสถาบันให้ความเห็นทิศทางเดียวกัน ว่า หุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง คือหุ้นของสายการบิน และธุรกิจด้านการท่องเที่ยว โรงแรม หุ้นที่เก็งกันว่าน่าจะมีทิศทางการเติบโตดี คือ หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล เพราะคนมีความตื่นตัวต่อโรคมาก ทำให้แม้จะเจ็บป่วยเล็กน้อยเกี่ยวกับทางเดินหายใจก็จะเข้ามารับการตรวจรักษา ในขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกยังไปได้เรื่อยๆ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคงที่ ตราสารหนี้ ยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีและค่อนข้างปลอดภัย ลูกจ้าง สถิติการว่างงานเพียง 1% หรือ 367,000 คนเมื่อปลายปีที่แล้ว อาจกำลังกลายเป็นอดีตที่หอมหวาน เพราะเดิมทีด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอ หลายกิจการก็ส่งสัญญาณปิดตัวเลิกจ้างกันไปเยอะเอาเรื่อง ยังมาโดนเคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนด้วยไวรัสไปอีก ยอดการว่างงานมีสิทธิ์พุ่งกระฉูดกว่าที่เคยคาดไว้ หมายฟามว่าลูกจ้างอีกหลายรายมีแววขาดรายได้ตามไปด้วย ขาดรายได้ก็กระทบกำลังซื้อ กำลังการใช้จ่ายกันอีก เฮ้ออออ ส่วนอีผีน้อยที่ว่างงานมาจากเกาหลีใต้ และขอเดินทางกลับประเทศไทยกว่า 5,000 คนนั้น ขอให้แกว่างงานไปตลอด โทษฐานไร้ความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม ไอ้บ้าเอ้ยยยย สถานบันเทิง สถานบริการชื่อดังหลายแห่งย่านเพรชบุรีตัดใหม่ แม้จะมี Dettol อยู่ในทุกตระกร้าอยู่แล้ว แต่ก็ได้มีมาตรการในการป้องกันเชื้อไวรัสเพิ่ม ตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณะสุข โดยมีการทำความสะอาด ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อพร้อมทั้งอบโอโซนในอาคาร รวมถึงพนักงานทุกคนได้รับการคัดกรองผู้ป่วยก่อนเข้าทำงาน ด้วยการวัดอุณหภูมิร่างกาย อย่างไรก็ตามมีสถานบันเทิงหลายแห่ง หลายประเภท ที่กำลังจะประสบภาวะขาดทุน ประกาศหยุดกิจการชั่วคราว เนื่องจากลูกค้าลดลงเป็นอย่างมาก กระทบมาจากนักท่องเที่ยวหาย ลูกค้าคนไทยมีความกังวลในการกิน ดื่ม เที่ยว ส่วนจะกลับมาเปิดได้เมื่อไหร่นั้น คำตอบคือยังไม่รู้ สถานบันเทิง หลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ประสบภาวะขาดทุน ล่าสุด มิราเคิล คาบาเรต์ เชียงใหม่ (Miracle cabaret Chiangmai) ประกาศหยุดกิจการชั่วคราว โดยได้จัดให้มีการแสดงชุดสุดท้าย เมื่อวันที่15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเป็นลูกค้าหลักของร้าน ลดลงอย่างมาก ส่วนจะกลับมาเปิดได้เมื่อไหร่นั้น ไม่รู้อีกเช่นกัน จบดีฝ่า..จริงๆมีอีกเยอะเลย แต่เขียนแล้วมันหดหู่ เอาเป็นว่าแจกตังค์เข้าพร้อมเพย์พันสองพันคงไม่ช่วยอะไร รอดูว่ามีนโยบายเชิงรุกแก้ไขอย่างไรต่อ อย่างไรก็ตามอย่าไปคาดหวังมาก แก้และป้องกันปัญหาของตัวเองกันไปฮะ สู้ๆเป็นกำลังใจให้