top of page

"หุ้นสหรัฐ" ยังไม่จบโหมดกระทิง 10 กองทุนหุ้นมะกันสุดแจ่ม



"หุ้นสหรัฐ" ยังไม่จบโหมดกระทิง 10 กองทุนหุ้นมะกันสุดแจ่ม #ถึงหุ้นมะกันจะโคตรซิ่งแต่ผมนิ่งหยุดใจไว้แค่คุณ

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทุบสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ไปเมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นที่น่าสนใจว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯวันนี้ กำลังเข้าสู่ตลาดกระทิงรอบใหม่ หรือ เป็นแค่การฟื้นตัวชั่วคราวเท่านั้น !!! . #เสี่ยวCREW พูดคุยกับ "ผู้จัดการกองทุนรายใหญ่" มีคำตอบว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯรอบนี้ เนื่องจากความคาดหวังต่อแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากเริ่มทยอยฉีควัคซีนให้กับประชาชนชาวอเมริกัน จากการสำรวจพบว่ามีประชาชนชาวอเมริกันได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เข็มแรกมากกว่าครึ่งนึงของจำนวนประชากรทั้งประเทศ . เป็นการสะท้อนว่าในอนาคตอันใกล้ ประเทศสหรัฐฯจะมีภูมิคุ้มกันหมู่อย่างรวดเร็ว หรืออาจจะได้เห็นภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ ส่งผลบวกโดยตรงกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศสหรัฐฯ . อีกหนึ่งตัวแปรสนับสนุนความเชื่อมั่น ทำให้ผู้ลงทุนหันมาโฟกัสในตลาดหุ้นสหรัฐฯมากขึ้น คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯนำโดย “โจ ไบเดน” มีเป้าหมายวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่สูงถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 18-19% ต่อมูลค่า GDP ของประเทศสหรัฐฯ . สำหรับการเร่งตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯรอบนี้ ถูกผลักดันด้วยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง หรือเข้าข่าย Growth Stock ก่อนจะโยกเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวตามวัฎจักรทางเศรษฐกิจ . อย่างไรก็ตาม หากประเมินเชิงมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯตอนนี้ ยังมองเห็นโอกาสอัพไซด์ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ไปแล้วก็ตาม!!! . เพราะย้อนมองเชิงปัจจัยพื้นฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจผ่านตัวเลข GDP จะเติบโตสูง 8-9% เป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำในปี 2563 ที่เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 . โอกาสการเติบโตของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯปี 64 คาดว่ากำไรต่อหุ้น (EPS Growth) เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง และหากนำ EPS Growth มาคำนวณกับการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯช่วงปลายเดือน พ.ค. จะพบว่ามีค่า P/E อยู่ที่ประมาณ 22 เท่า และหากคิดเป็น Forward P/E ปี 65 จะอยู่ที่ 20 เท่า ซึ่งมองว่ายังไม่ได้อยู่ในระดับที่แพงเกินไป . เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ 0-0.25% ส่วนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯอยู่ระดับประมาณ 1.60% หรือกรณีที่มีโอกาสขึ้นไปถึง 2% จากโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ก็จะพบว่าส่วนต่างกำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯยังอยู่ในระดับที่สูง สะท้อนผ่านการคำนวณ Earning Yield Gap ที่อยู่ระดับกว่า 3% เป็นอัตราผลตอบแทนที่ค่อนข้างสร้างแรงจูงใจให้เม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯได้อย่างต่อเนื่อง . #เสี่ยวCREW ย้อนไปดูผลตอบแทนกองทุนหุ้นสหรัฐฯ พบว่าสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนอย่างแจ่ม!! เลยถือโอกาสจัดอันดับ 10 กองทุนหุ้นสหรัฐฯที่มีผลตอบแทนสูงสุดรอบ 1 ปีย้อนหลังมาฝากฮะ

7 views0 comments
bottom of page