top of page

เตรียมรับมือนักท่องเที่ยวจีนทะลัก! ฟรีวีซ่าดันรายได้ 2.57 แสนลบ. ปีนี้


เตรียมรับมือนักท่องเที่ยวจีนทะลัก! ฟรีวีซ่าดันรายได้ 2.57 แสนลบ. ปีนี้ #เห็นท่องเที่ยวดีก็ดีใจแต่เห็นเธอมีใครทำไมใจไม่ดี

“ฟรีวีซ่า” ประกาศใช้อย่างเป็นทางการเรียบร้อย สำหรับนักท่องเที่ยว “จีน” และ “คาซัคสถาน” เริ่มใช้ตั้งแต่ 25 ก.ย. 66 – 29 ก.พ. 67 รวมระยะเวลา 5 เดือน . ที่มาขอนโยบายนี้ก็ไม่ซับซ้อนอะไรครับ เน้นกระตุ้นท่องเที่ยวให้คึกคักมากขึ้น เห็นผลรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น ที่ต้องเร่งทำก็เพราะภาคท่องเที่ยวยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และเป็นภาคธุรกิจสำคัญที่มีโอกาสช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในปีนี้ (ส่งออกทั้งปีน่าจะติดลบค่อนข้างแน่นอน) . นอกจากนี้ในรอบปีที่ผ่านมา “นักท่องเที่ยวจีน” ซึ่งเคยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยมากสุด และมีการใช้จ่ายต่อหัวที่ค่อนข้างสูง ยังเดินทางเข้ามาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เลยคาดหวังกันไว้ว่า นโยบายนี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยวจีน ทั้งจากแผ่นดินใหญ่และที่อยู่ในประเทศใกล้เคียง สามารถเดินทางเข้ามาได้ง่ายขึ้น . หลังจากลุยนโยบายโปรโมชั่น 5 เดือนนี้ ทางการเค้าก็คาดหวังว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน จะเดินทางเข้ามาเพิ่มจำนวนประมาณ 3 ล้านคน คิดเป็นรายได้รวม 1.48 แสนล้านบาท แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวจีน 1.9 – 2.8 ล้านคน รายได้รวม 9.2 หมื่นล้านบาท – 1.4 แสนล้านบาท และนักท่องเที่ยวคาซัคสถาน 1.3 แสนคน คิดเป็นรายได้รวม 7.9 พันล้านบาท . ขณะเดียวกันคาดว่า นโยบายฟรีวีซ่า จะผลักดันยอกนักท่องเที่ยวจีนปีนี้ให้ทะลุเป้าอยู่ที่ 4 - 4.4 ล้านคน คิดเป็นรายได้รวม 2.57 แสนล้านบาท จากเป้าหมายเดิมอยู่ที่ 3.4 ล้านคน คิดเป็นรายได้รวม 1.7 แสนล้านบาท ขณะที่ข้อมูลล่าสุดจำนวนนักท่องเที่ยวจีน เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่ ม.ค.-ก.ค. 66 มีจำนวน 1.85 ล้านคน . อย่างไรก็ตามคนในฟากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ก็ยังต้องการให้มีนโยบายอื่นๆ ออกมาส่งเสริมเพิ่มอีก โดยเฉพาะนโยบายเกี่ยวกับเงินทุน รวมทั้งอยากให้ฟรีวีซ่ากับนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นด้วยเช่นกัน . #เสี่ยวCREW เอาใจช่วยครับ ขอให้สำเร็จคึกคัก สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวต่อเนื่อง และหากได้ผลค่อยไปเพิ่มเติมนโยบายส่งเสริมกันอีกที

2 views0 comments
bottom of page