เศรษฐกิจไทย ไฉไลแค่ไหน ? ในมุมมอง World Bank & IMF #จริงๆก็อยากเห็นเศรษฐกิจดี #แต่ตอนนี้อยากเห็นหน้าเธอมากกว่า
ช่วงนี้มีข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยขึ้นมานิดหน่อย หลังจากก่อนหน้าใครต่อใครพากันมอง ว่า เราเติบโตช้า ฟื้นตัวอืด กว่าชาวบ้าน โดยประมาณการใหม่รอบนี้มาจาก 2 สำนักใหญ่เบิ้มอย่าง ธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) . อย่างไรก็ตาม 2 สำนักนี้ เค้าก็ไม่ได้มองว่าเราจะเติบโตหวือหวาไรมากครับ ยังต้องพึ่งพิงการท่องเที่ยวอยู่มากและปัจจัยเสี่ยงก็ยังมีอยู่เพียบ แต่อย่างน้อยยย ก็ดีกว่าไม่โตเลย รายละเอียดก็มีดังต่อไปนี้นะครับท่านผู้ชม . World Bank เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3.1% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.9% โดยมีปัจจัยหนุนจากการบริโภคในประเทศ การท่องเที่ยวฟื้นตัว และการส่งออก . ปี 66 คาดว่าจะโต 4.1% ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 4.3% จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่กดดันความต้องการส่งออก แต่การผ่อนคลายของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 จะสนับสนุนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวต่อเนื่อง คาดว่าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือน 8-10 ล้านคนในปีนี้ . IMF คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้โต 2.8% ไม่เปลี่ยนแปลงจากรายงานเดือน ก.ค. โดยได้รับผลกระทบจากสงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อ ทำให้อุปสงค์ในประเทศชะลอตัว ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น และความต้องการภายนอกที่ลดลง . ปี 66 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 4% โดยแนวโน้มการเติบโตขึ้นอยู่กับการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยง คือ ราคาพลังงานที่สูงขึ้น อาจกระทบต่อการบริโภคของภาคเอกชน และความต้องการจากภายนอก . นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตา คือ ภาวะการเงินโลกที่ตึงตัว การชะลอตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางงบดุลของภาคเอกชนที่ขยายตัว ซึ่งอาจทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก . ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ #เสี่ยวCREW ก็อยากให้ระวังความผันผวนกันหน่อยนะค้าบบบ เราหนีอิทธิพลของตลาดขนาดใหญ่ไปไม่พ้น . ช่วงนี้สถาบันการเงิน กองทุนขนาดใหญ่ เริ่มส่งสัญญาณให้ถือเงินสด หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้น ลดพอร์ตลง กันแล้ว เนื่องจากมองว่าที่ผ่านมาตลาดหุ้นยังไม่รับรู้ความรุนแรงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจสะท้อนออกมาในผลประกอบการระยะต่อจากนี้