เอาตัวรอดอย่างไร ? ในวิกฤติตลาดคริปโต

เอาตัวรอดอย่างไร ? ในวิกฤติตลาดคริปโต #ตลาดคริปโตขาขึ้นอาจเป็นความฝัน #ความห่วงใยให้คุณนั้นคือความจริง

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมาคริปโตฯสกุลใหญ่ ยังอาการหนักอย่างต่อเนื่องนะครับ ทำนิวโลว์ใหม่ไปเรียบร้อย แม้ระหว่างทางจะมีรีบาวด์ขึ้นมาบ้าง แต่..ก็หาใช่สัญญาณการฟื้นคืนไม่ บอกเลยยย..ครับ อย่าเพิ่งหวังว่าจะ ไปไหนไกล โอกาสจะร่วงยังมีสูง เพราะปัจจัยลบรุมเร้าอยู่เพียบ แถมยังมีข่าวร้ายจาก บุคคล องค์กรต่างๆ ออกมาดิสเครดิตอยู่เป็นระยะ . จากสถานการณ์อันย่ำแย่นี้ #เสี่ยวCREW เชื่อว่า เพื่อนนักลงทุนหลายท่านคงเป็นเดือด เป็นร้อน เป็นเครียด อยู่ไม่น้อย แต่ที่สุดแล้วต้องยอมรับความจริงและหาทางแก้ไขครับ ซึ่งเราขอเอาข้อมูลจากงาน Crypto Meetup Thailand ครั้งล่าสุด ในหัวข้อ “ตลาดหมีเต็มตัวหรือยัง ?” มาเล่าให้ฟัง เผื่อเป็นแนวทางเอาตัวรอดกันครับ . รอดอย่างไรในสถานการณ์วิกฤติ สำหรับนักลงทุนสายคริปโตฯ ที่ยังมึนช็อคกับสถานการณ์ตลาดขาลงในปัจจุบัน แนะนำให้ชะลอการลงทุนไว้ก่อน หรือถ้าอยากลงทุนในช่วงนี้ควรมั่นใจ ว่า สามารถลงทุนระยะยาว 3-5 ปีได้ และควรแบ่งพอร์ตการลงทุน บริหารความเสี่ยงให้ดี . แต่หากมองอีกมุมจะเห็น ว่า บริษัทจดทะเบียนระดับโลก อย่าง MicroStrategy , Tesla หรือแม้แต่ ประเทศเอลซัลวาดอร์ ที่มีการถือครองบิทคอยน์อยู่เป็นจำนวนมาก ก็ยังคงมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ยังแสดงความมั่นใจ และไม่ได้เทขายแต่อย่างใด . เตรียมพร้อมลุยตลาดคริปโทฯ รอบใหม่ 1. ความรู้ ความเข้าใจ เป็นสิ่งสำคัญมาก ต้องเข้าใจธรรมชาติของตลาด, สินทรัพย์แต่ละตัวมีคุณลักษณะอย่างไร สามารถนำไปใช้งาน (Utilize) อย่างไรได้บ้าง 2. การเก็บรักษาสินทรัพย์ ในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล คุณต้องเก็บรักษาสินทรัพย์ของคุณเอง ไม่มีใครสามารถเก็บสินทรัพย์ให้คุณได้จริง อย่างที่ในวงการเรามักพูดว่า “Not your key, not your coin” 3. ความผันผวนของราคา เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง และตลาดเองก็มีความผันผวนสูงเช่นกัน นักลงทุนควรต้องศึกษาหาข้อมูล ติดตามข่าวสาร แบบเรียลไทม์ เพื่อรับมือกับความเสี่ยง 4. ความแข็งแรงของแพลตฟอร์มและสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ควรเลือกใช้งานแพลตฟอร์มที่มีความแข็งแรง และมี community (ชุมชน) ที่ดีคอยสนับสนุน community ที่ดีจะคอยช่วยกันตรวจสอบและระมัดระวังหากเกิดความผิดปกติต่อผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มนั้น ๆ . ที่สำคัญ !!! การลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีควรศึกษาให้เข้าใจอย่างแท้จริง ไม่ควรลงทุนโดยการเชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือว่าบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน . มี case study ให้เห็นอยู่มากมาย เช่น เหรียญ DAI ที่เป็น Stable Coin (ถูกตรึงมูลค่าให้เท่ากับ 1 ดอลลาร์) แต่ด้วยความผิดพลาดจากการทำงานของแพลตฟอร์ม จึงทำให้เหรียญ DAI เคยทำราคาขึ้นสูงสุดเกือบ 100 บาท และทำให้นักลงทุนที่ไม่รู้จักเหรียญ DAI เข้าไปลงทุนจนเกิดความเสียหาย . หรือแม้แต่กรณีของเหรียญ LUNA ที่เริ่มต้นจากการที่ Stable Coin อย่าง UST หลุดเป๊ก (PEG) หรือต่ำกว่า 1 ดอลลาร์และไม่สามารถกลับมาคงมูลค่าได้เป็นต้น . ดังนั้นไม่ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง ความรู้ ความเข้าใจ และการมีสติ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลกคริปโทฯ จำไว้เสมอว่า จำนวนเหรียญที่มีอยู่ในระบบไม่ได้มีการลดลงหรือเพิ่มขึ้น มันจะไม่มีการ Dilute ถึงแม้สถานการณ์แปรเปลี่ยน แต่พื้นฐานไม่ได้แปรเปลี่ยนตาม