top of page

2020 เสี่ยงเตะฝุ่นครองเมือง




2020 เสี่ยงเตะฝุ่นครองเมือง

#ขาดงานขาดเงินยังทนไหวแต่ขาดเธอเหมือนขาดใจใครจะทน #เศรษฐกิจติดไวรัส #สู้ๆนะฮะ

ตลบอบอวลด้วยข่าวร้ายรุมเร้า "เศรษฐกิจไทย"

ล่าสุดสภาพัฒน์ฯ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 4/62 ขยายตัว 1.6% ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี ทำเอาเซียนพยากรณ์เศรษฐกิจหลายรายหน้าแหกกันถ้วนหน้า ส่วนทั้งปีเติบโต 2.4% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 2.6% และปีนี้อันเต็มไปด้วยความเสี่ยงรุมทืบ คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในช่วง 1.5-2.5% หรือเฉลี่ย 2% ต่อปี

ประกาศปุ๊ป..ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ TMB ก็ออกมาขยี้ต่อเลยจ้า

“ไตรมาสแรกปีนี้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสเข้าขั้นติดลบ 2%”

ปัจจัยลบที่กระทบรุนแรงช่วงนี้ต้องยกให้ “โควิด-19” ลุกลามไปหลายประเทศทั่วโลก สะเทือนรายได้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวบ้านเราเช่นกัน ว่ากันว่ามีโอกาสสูญมากกว่า 2 แสนล้านบาท ยังไม่นับรวมกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กจำนวนมากกำลังย่ำแย่ มีความเสี่ยงต้องปิดกิจการ เพราะทนพิษบาดแผลทางเศรษฐกิจไม่ไหว ล่าสุดธนาคารใหญ่หลายแห่งจำเป็นต้องเร่งออกมาตรการช่วยประคับประคองธุรกิจรายกลางและเล็กกันแบบใกล้ชิด เพราะกังวลสัญญาณหนี้เสียมีโอกาสเร่งตัวขึ้นในช่วงสั้น

#เสี่ยวCREW มีโอกาสพูดคุยกับกลุ่มพนักงานประจำที่ทำงานในโรงแรมขนาดใหญ่กลางกรุงเทพฯ

ได้ข้อมูลมาว่า ต้นเดือน ก.พ. จำนวนนักท่องเที่ยวหลายประเทศ โดยเฉพาะชาวจีน ยกเลิกเข้าพักจากเหตุการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อัตราเข้าพักของโรงแรมลดลงไปกว่า 80% เมื่อเทียบกับอัตราเข้าพักในภาวะปกติ ฝ่ายบุคคลเจรจากับพนักงานประจำเพื่อแจ้งให้รับทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การปรับลดชั่วโมงการทำงานลง รายได้ต่อเดือนที่จะลดลง

ส่วนพนักงานสัญญาจ้างหรือไม่ประจำ “สถานะปัจจุบันเลิกจ้างไปเรียบร้อยแล้ว” แถมยังปิดบริการ การใช้อาคารบางส่วนเพื่อลดค่าใช้จ่าย

ธุรกิจโรงแรมเป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง

แต่..หลังจากนี้เชื่อว่าอีกหลายภาคธุรกิจจะโดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานรุนแรงเหมือนกัน และเชื่อว่าจำนวนคนตกงานก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นแบบพุ่งปรี๊ด

ข้อมูลอัพเดทล่าสุดเดือน ธ.ค.62 จาก "สำนักงานสถิติแห่งชาติ" พบว่า

ผู้ว่างงานในเดือน ธ.ค.62 มีทั้งสิ้น 367,000 คน เพิ่มขึ้น 18,000 คน เมื่อเทียบกับฐานของเดือน ธ.ค.61 คิดเป็นอัตราว่างงานของทั้งประเทศเพียง 1% และเมื่อเทียบกับฐานเดือน พ.ย.62 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 62,000 คน

ดูแล้วน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีใช่ไหมล่ะ?

ไม่แน่ใจแฮะ!!

เมื่อวิเคราะห์สาเหตุการว่างงานในเดือนธ.ค.62 พบว่า เหตุผลการว่างงานเพราะนายจ้างเลิก / หยุด / ปิดกิจการ มีจำนวนสูงถึง 24,500 คน เพิ่มขึ้นเกือบ 1,000% เมื่อเทียบกับฐานเดือน ธ.ค.61 ที่มีจำนวนเพียง 2,300 คน และคนว่างงานส่วนใหญ่ 1.95 แสนคน มาจากภาคการบริการและการค้า ภาคการผลิต ภาคเกษตรกรรม ส่วนที่เหลืออีก 1.72 แสนคนเป็นกลุ่มผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนนนนน

ส่วนจำนวนผู้มีงานทำอยู่ที่ 37.66 ล้านคน ลดลง 210,000 คน เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค.61ประกอบด้วยผู้มีงานทำนอกภาคเกษตรกรรม 24.97 ล้านคน และในภาคเกษตรกรรม 12.69 ล้านคน สาขาที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และจักรยานยนต์ เพิ่มขึ้น 70,000 คน สาขาการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 30,000 คน สาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้น 20,000 คน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร เพิ่มขึ้น 10,000 คน สาขากิจกรรมทางการเงินและการประกันภัยไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ผู้มีงานในภาคเกษตรกรรมมีจำนวนเพิ่มขึ้น 260,000 คน ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นในสาขาการปลูกข้าวจ้าว การปลูกพืชผักกินผล รวมถึงแตงชนิดต่างๆ และการปลูกพืชผักกินรากและหัวใต้ดิน (อารมณ์แบบไม่มีงานอ่ะก็กลับบ้านไปทำนาปลูกโน่นนี่)

ข้อมูลทั้งหมดเป็นแค่เพียงตัวอย่าง เพื่อสะท้อนสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปีที่แล้วเท่านั้น (ย้ำว่าปลายปีที่แล้ว) ปีนี้!!เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะบอบช้ำกว่าเดิม ด้วยหลายปัจจัยลบ ขณะที่ความมั่นใจของคนไทยที่มีต่อเศรษฐกิจถูกบั่นทอนไปเรื่อยๆ

ลองเอาไปคิดดูแล้วกัน หนักกว่าเดิมไหม?

ภาวะเช่นนี้บอกเลยว่าไม่ได้มีกันบ่อยนัก

น่ากลัวนะเฟ้ย!! ดังนั้นระวังเงินในกระเป๋า รักงานที่ทำกันหน่อยก็ดีนะจ๊ะ

0 views0 comments
bottom of page