7 ปีรัฐบาล “ลุงตู่” ผลาญงบ 21 ล้านลบ. กู้เบิ้มๆ 5.59 ล้านลบ.หนี้สาธารณะพุ่งนิวไฮ

7 ปีรัฐบาล “ลุงตู่” ผลาญงบ 21 ล้านลบ. กู้เบิ้มๆ 5.59 ล้านลบ.หนี้สาธารณะพุ่งนิวไฮ #เก่งกาจเฉพาะเรื่องกู้แต่เรื่องเจ้าชู้ไม่รู้คืออะไร
เคยเชื่อเรื่อง อาถรรพ์ 7 ปี ไหมครับ ? คู่รักต้องเลิกรา, ครอบครัวต้องแตกแยกและอื่น ๆ เดิมก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างนะ แต่ตอนนี้ไม่เชื่อ 100% เพราะถ้าความรักดีๆ 7 ปีมีอันต้องแยกย้าย แต่ทำไม 7 ปีของรัฐบาล "ลุงตู่" ที่ไม่ค่อยมีใครรัก กลับอยู่ได้นานทนทายาท และไม่มีทีท่าจะลาล้างไปไหนเลย . แล้วรู้ไหมว่ารัฐบาล "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" หรือ AKA "ลุงตู่" ได้จัดทำงบประมาณไปแล้ว 7 ครั้ง หลังทำรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค.57 ใช้งบประมาณแผ่นทั้งสิ้น 21.01 ล้านล้านบาท . แต่...สิ่งที่ประชาชนได้รับคือคุณภาพชีวิตขาลงแบบสุดๆ เศรษฐกิจซบเซา แถม GDP สาละวันเตี้ยลงอย่างต่อเนื่อง . ขยันเบิกจ่ายงบฯ มาใช้เรื่องที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ปรับปรุงกองทัพ สะท้อนจาก งบฯ "กระทรวงกลาโหม" ที่เพิ่มขึ้นแทบทุกปี . นับแค่ปี 58 - 63 ซึ่งเป็นช่วงก่อนโควิด-19 (งบประมาณแผ่นดิน เริ่ม 1 ต.ค. สิ้นสุด 30 ก.ย.ปีถัดไป) เพิ่มจาก 1.9 แสนล้านบาท สู่ 2.32 แสนล้านบาท . แม้งบฯ ปี 64-65 ของกระทรวงนี้จะลดลงบ้าง แต่ก็เล็กน้อย ยังเหลือตั้ง 2.15 แสนล้านบาท และ 2.03 แสนล้านบาท . ที่ตลกคือช่วงวิกฤติโควิดแบบนี้ ยังมีหน้าจะซื้อรถถังอีก - - " ถามหน่อยว่าจำเป็นไหม เราจะไปรบกับใคร เมื่อไหร่ อย่างไร ? . ที่น่าสนใจคือ งบฯ ของ "กระทรวงศึกษาธิการ" กลับลดลงทุกปี โดยปี 58-65 จาก 5.01 แสนล้านบาท เหลือแค่ 3.32 แสนล้านบาท . อนาคตประเทศไทยดูหม่น ๆ ยังไงก็ไม่รู้เนอะ มิน่าเด็กมันเลยออกมาเต็มถนน . ยิ่งช่วงโควิด-19 งบฯ ที่ควรเพิ่มอย่างมีนัยคือ "กระทรวงสาธารณสุข" แต่กลับเพิ่มเบบี๋มาก งบฯ ปี 63-65 กระทรวงนี้ได้เงินแค่ 1.37 / 1.46 และ 1.54 แสนล้านบาทเท่านั้น . นอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ตั้งแต่งบฯ ปี 61 เป็นต้นมา มีหน่วยงานเพิ่มขึ้นสำหรับรายจ่ายงบประมาณประจำปี คือ "ส่วนราชการในพระองค์" ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เคยมี . โดยงบฯ หน่วยนี้ตั้งแต่ปี 61-65 อยู่ที่.... 6.4 / 6.81 / 9.81 / 9 และ 8.76 พันล้านบาทต่อปี ตามลำดับ . Job Description ระบุว่า เป็นหน่วยงานที่มุ่งธำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมาหากษัตริย์ ปฏิบัติงานทั้งราชการแผ่นดินและส่วนพระองค์ ถวายเผยแพร่เกียรติคุณ โดยรายละเอียดจำแนกตามงบรายจ่าย ระบุว่าเป็น "เงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายส่วนราชการในพระองค์" . นอกจากนี้ อีกประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ... รัฐบาลที่นำโดย "ลุงตู่" ได้กู้เงินไปแล้วรวม 5.6 ล้านล้านบาท . Beyond เหนือรัฐบาลอื่นที่เคยมีมา ไม่ว่าใครจะนำก็ตาม . ข้อมูลการกู้เงินใหม่โดยรัฐบาล (ไม่รวมรัฐวิสาหกิจ-กองทุนฟื้นฟู-หน่วยงานของรัฐ) ระหว่างปีงบประมาณ 58-64 พบว่า มีการกู้เงินใหม่ไปถึง 5.6 ล้านล้านบาท . ส่วนใหญ่เป็นการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณทุกปี สะท้อนการบริหารเศรษฐกิจได้อย่างไร้ประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะ 2 ปีหลัง (63-64) ที่มีตัวแปรอย่างโควิดเข้ามาเพิ่ม อาการเหวอรับประทานจึงบังเกิดขึ้น ทีนี้เหมือนคนเมาหมัด จะเอาเงินจากไหนมาช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชน . คิดออกอยู่อย่างเดียวคือ "กู้เงิน" มาถมเข้าไป ซึ่งปี 63-64 รัฐบาลนี้กู้เงินไป ปีละ 1.4 - 1.5 ล้านล้านบาท รวมเฉียด 3 ล้านล้านบาท !!! ในช่วงเวลาเพียง 2 ปี . สิริรวม ณ สิ้น เม.ย.64 ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะรวม 8.59 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่ 54.91% . จาก ณ สิ้นงบฯ ปี 57 ก่อน "ลุงตู่" จะมาเป็นรัฐบาล ตอนนั้นมีหนี้ 5.69 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่ 43.33% ล่าสุดออก พระราชกำหนดกู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท . นักเศรษฐศาสตร์และนักการเงินแนะให้จับตาดี ๆ เลย เพราะหากเบิกจ่ายกันเมื่อไหร่จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะ พุ่งทะลุเพดานที่กำหนดไว้ 60% มากกว่าหนี้ตอนวิกฤติ "ต้มยำกุ้ง" อีก ทีนี้ไม่ต้องเทียบแง่มูลค่าหนี้และจีดีพีเลย เพราะห่างกันมากมายก่ายกอง . หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อประชาชนแน่นอน เพราะเงินภาษีก็จะถูกใช้ไปกับการใช้หนี้ ไม่ได้มาพัฒนาใดๆ เพื่อคุณภาพชีวิต ต้นทุนสินค้าต่างๆ ก็จะเพิ่มขึ้น แถมปัญหาเงินเฟ้อก็จะเกิดขึ้น อำนาจการใช้จ่ายลดลง . และมีอีกสารพัดผลกระทบจากปัญหาหนี้สาธารณะที่รัฐบาลนี้ก่อขึ้น ได้แค่คิดแล้วก็สงสัย...ว่าเมื่อไหร่ประเทศชาติจะหลุดพ้นเงื้อมมือคนเหล่านี้สักที . จะหวังพึ่งอาถรรพ์ 7 ปีก็คงไม่เกิด แต่ที่เกิดแล้วแน่ ๆ คือ...ประชาชนคนไทยโดยอาถรรพ์ของคนเหล่านี้หลอกหลอนมาแล้วกว่า 7 ปี