CPANEL แจ่มแค่ไหน เป็นไงต่อ ?

CPANEL แจ่มแค่ไหน เป็นไงต่อ ? #เลือกหุ้นดีไม่ต้องกลัวขาดทุน #เลือกอยู่กับคุณไม่ต้องกลัวขาดใจ
ตลาดหุ้นกับความผันผวนเป็นของคู่กัน จริงๆมันก็คู่กับสินทรัพย์เสี่ยงทุกตลาด หนีกันไม่ออกหรอกครับ . แต่..เราบริหารจัดการได้ครับ วิธีก็ไม่ซับซ้อน แค่ไม่ซื้อหุ้นเพียงเพราะตามกระแส ไม่ซื้อหุ้นที่เราไม่รู้จัก (แต่ส่วนใหญ่ไม่ทำ เห็นไปโพสต์ในหลายกลุ่มกันจัง ว่า ซื้อหุ้นอะไรดี และไม่นานก็มักจะดอย) . สิ่งที่ควรทำ คือ เลือกหุ้นของเราเองครับ หาหุ้นดีๆติดมือไว้ ถืออย่างสบายใจ ยาวหน่อยแต่กำไรจั๋งๆ ธุรกิจดีๆ ในตลาดหุ้นมีเยอะแยะครับ . #เสี่ยวCREW ก็ทำเช่นนั้น ผลที่ได้โคตรดี เลิกขาดทุนมานานแล้ว หุ้นที่ถืออยู่กำไรอย่างน้อย 35% ซึ่งขอเอามาแชร์ให้ดูไปเรื่อยๆแล้วกัน ว่ามีหุ้นอะไรบ้าง และถือไว้เพราะอะไร . CPANEL เป็นหนึ่งในหุ้นที่เราถืออยู่ สาเหตุก็ไม่มีไรมาก ตามหัวข้อดังต่อไปนี้เลยครับ . (ตัวเลขงบ ตัวเลขทางการเงินต่างๆ ไปหาเปิดดูกันเอาเองนะจ๊ะ บริษัทเค้าแจ้งตลาดไว้ยาวพรืด หาไม่ยาก) . - ผู้บอฯเก่งเริ่มกิจการมาแค่ 8 ปี ก็เอาบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอได้ ถือว่าใช้เวลาน้อยมาก . นั่นแปลว่า Vision กับการกำหนดวิธีการทำงาน การบริหาร มันต้องโบ๊ะบ๊ะมากๆ จนทำให้กิจการเติบโต มีโครงสร้างทุน ฐานะการเงินที่แข็งแรง . - CPANEL ไม่ใช่ผู้ผลิตผนังคอนกรีตสำเร็จรูปรายใหญ่สุด หรือมีกำลังผลิตมากสุดของประเทศ แต่..แข่งขันกับรายใหญ่ได้ทั้งคุณภาพและราคา . ถ้าไม่เชื่อก็ไปดูพอร์ตลูกค้าของบริษัท มีแต่ Developer รายใหญ่อยู่ในมือเพียบ ซึ่งพวกนี้ต้องเลือกมาดีแล้วล่ะว่ามันคุ้มและชัวร์ที่จะใช้ . - งบปี 64 ที่กำลังจะออกมาในเร็วๆนี้ น่าจะดูดีไม่น้อย หากเทียบกับปี 62 ที่ติดโควิดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ว่ากันว่ารายได้จะโต 35% หรือประมาณ 300 ล้านบาท . ที่น่าจับตากว่า คือ อัตรากำไรสุทธิ!! จะกลับไปอยู่ที่สิบกว่าเปอร์เซนต์ได้หรือไม่ (เราคาดว่าได้จาก Economy of Scale ในการผลิต ยิ่งมากยิ่งคุ้ม เพราะต้นทุนใกล้เคียงเดิม ) . - ปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะดีขึ้นอีก โดยเฉพาะบ้านกลุ่มราคาไม่สูงมาก เพราะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว มาตรการรัฐเข้ามากระตุ้น . ซึ่งก็เข้าทางบริษัทไปอีก เพราะความต้องการใช้ผนังคอนกรีตสำเร็จรูปจะมากขึ้นตาม จากการที่ Developer ต้องคุมต้นทุน คุมปัญหาแรงงาน . - ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทประกาศมีออร์เดอร์รออยู่แล้วประมาณ 1,200 ล้านบาท ทยอยรับรู้ 3 ปี จับหารง่ายๆ โง่ๆ ก็ได้ 400 ล้านบาท/ปี . มากกว่ารายได้ปีที่แล้วไปเรียบร้อย ถ้าผู้บอไม่หางานมาเพิ่มอีกเลยในปีนี้ ยังไงก็โตอยู่ดี . - ความสามารถทำกำไรก็น่าจะดีขึ้นด้วย จากการขายมากขึ้น ผลิตมากขึ้น Economy of Scale ที่บอกไปเมื่อกี้นั่นแหล่ะ . อ่อ..ปีนี้ต้นทุนการเงินของบริษัทน่าจะลดลงอีก จากการนำเงินระดมทุนไปชำระหนี้สถาบันการเงินแล้วทั้งสิ้น 100 ล้านบาท . - ความเสี่ยงก็มีแหล่ะ ข้าวของที่แพงขึ้น อาจทำให้ต้นทุนผลิต ขนส่ง ปรับขึ้นตาม ซึ่งก็ต้องตามดูว่าผู้บอจะจัดการอย่างไร . ที่เรารู้ก็มีการลงเครื่องจักรเพิ่ม เพื่อลดของเสียจากกระบวนการผลิตไปแล้วบางส่วน . - อีโควิดที่ระบาดอยู่นี้ ไม่รู้จะลุกฮือกระทบอะไรอีกไหม ถ้ามีก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่การขายจะกระทบตาม
สุดท้ายนี้ก็จะบอกว่า ถือหุ้นตัวนี้มาตั้งแต่ตอนไอพีโอ ตอนนี้ราคาก็อยู่แถวๆ 10 บาทเอง หลายท่านที่จองได้เหมือนเรา อาจขายไปแล้วแถวๆ 7-8 บาท . อย่างไรก็ตาม #เสี่ยวCREW ก็คงถือต่อไปจนกว่าจะกำไร 100% เดี๋ยวค่อยลองคิดดูใหม่ว่าเอาไงดี