“WICE” เป็นไง-ไปต่อไหม ?

“WICE” เป็นไง-ไปต่อไหม ? #ในพอร์ตมีหุ้นไวส์ในหัวใจมีแต่เธอ
1.93 บาท คือ ราคาหุ้นเมื่อ 20 เม.ย. 63 6.25 บาท คือ ราคาหุ้นเมื่อ 20 เม.ย. 64 25.25 บาท คือ ราคาหุ้นสูงสุดเมื่อ 13 ม.ค. 65 . หลังจากนั้นราคาหุ้นยืนอยู่แถวยี่สิบกว่าได้เกือบเดือน แล้วหลุดลงมาอยู่แถวหลักสิบปลายๆ วันดีคืนดีก็แวะไปทักทายยี่สิบบ้าง ตอนนี้ป้วนเปี้ยนอยู่แถว 16 บาทกว่า ราคาที่รูดลงมาเกิดจากข่าวการล็อกดาวน์ในประเทศจีน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท . เดาออกไหมว่า หุ้นตัวไหน ? “WICE” ไงจะใครล่ะ . #เสี่ยวCREW ขอเล่าถึงหุ้นตัวนี้สักเล็กน้อย ด้วยความที่คบหาดูใจกันมาพักใหญ่ ตั้งแต่สมัยบริษัทเน้นการขยายธุรกิจและเติบโตในรูปแบบ “Inorganic Growth” ซื้อกิจการ ร่วมกิจการ กับโลจิสติกส์ไซส์ไม่ใหญ่มากในประเทศแถบเอเชียอย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง จีน มาเลเซีย แม้แต่ไทยด้วยกันเองก็มี . ซื้อที เทคฯที ราคาหุ้นก็กระดิกที แต่ก็วิ่งอยู่หลักหน่วยนั่นแหล่ะ ไม่ไปไหนไกล บางช่วงราคาหุ้นร่วงอีกต่างหาก เพราะกิจการที่ไปเทคฯมาดันฉุดกำไรในภาพรวมให้ลดลง บริษัทต้องนำเงินไปใส่เพิ่มประคองให้กิจการแข็งแรงขึ้น ทำงานด้านการขนส่ง โลจิสติกส์ได้เต็มประสิทธิภาพกว่าเดิม . แต่...ผู้บอฯเชื่อมั่นตลอด ว่า ถ้าโครงข่ายธุรกิจเหล่านี้พร้อมเต็มที่ WICE จะเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับอินเตอร์ ที่โคตรพร้อมและสตรองมาก . เวลาผ่านไปปรากฎ ว่า เป็นจริง!! สิ่งที่บริษัทขยายไว้ ลงทุนไว้ ออกดอก ออกผล ต่อยอดธุรกิจแบบเบิ้มๆ ถ้าไปดูรายได้ย้อนหลังก็จะพบว่า รายได้โตต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 62-64 จาก 2,230.88 ล้านบาท 4,005.96 ล้านบาท และ 7,669.67 ล้านบาทตามลำดับ . กำไรสุทธิปี 62-64 จาก 61.97 ล้านบาท 201.08 ล้านบาท และ 535.53 ล้านบาทตามลำดับ ถ้าไปดูในรายละเอียดการโตของกำไรก็จะพบอีกว่า WICE มีกำไรสุทธิโตขึ้นทุกไตรมาส เป็นระยะเวลา 8 ไตรมาสติดต่อกัน (Q1/63 - Q4/64) แบบไม่พัก ไม่ย่อ ไม่หือ ไม่อือ กับปัจจัยลบใดๆ ดูดีชะมัด!! . อย่างไรก็ตามแม้บริษัทจะโตฝ่าปัจจัยลบ สวนทางชาวบ้าน ปัจจุบันก็เป็นเรื่องของปัจจุบันอยู่ดีครับ ต้นปีมานี้ปัจจัยลบดูจะมากมายกว่าเคย ทั้งโควิด สงคราม น้ำมัน ล็อกดาวน์ ดอกเบี้ย Q/E ฯลฯ ล้วนฉุดภาพรวมเศรษฐกิจ พาไปสู่ความกังวล ไม่แน่ใจ และอาจกระทบการดำเนินธุรกิจของบริษัทได้ทั้งนั้น . คงต้องพิสูจน์กันต่อครับ WICE จะทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ได้ตามเป้าหรือไม่ ? อีกไม่นานงบไตรมาสแรกออกคงรู้กัน คงได้เห็นแววที่ชัดเจนมากขึ้น แต่ที่แน่ๆตอนนี้บทวิเคราะห์หลายสำนักดูค่อนข้างมั่นใจ และพร้อมใจกันบอกสั้นๆ ว่า “ซื้อ”