top of page

กระแสเงินดิจิทัล..มาว่ะ


กระแส “เงินดิจิทัล” ในไทยและทั่วโลกมาแรงโคตรๆ ณ เวลานี้

เดิมที “สกุลเงินดิจิทัล” (Cryptocurrency) เป็นที่นิยมไม่แพร่หลายนัก ส่วนมากเป็นนักเทรด นักเก็งกำไร นักธุรกิจ แต่หลังจากประเทศ Facebook ประกาศแนวคิดออกสกุลเงินดิจิทัลนามว่า Libra ผู้คนทั่วโลกก็หันมาสนใจ ใคร่รู้ เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลกันแบบพึ่บพั่บ บ้างว่ามันจะเปลี่ยนโลก แพร่หลาย ใช้ง่าย ล้มสกุลเงิน ระบบธนาคาร ภาษี ฯลฯ ต่างๆนานาว่ากันไป ซึ่งทั้งหมดยังมาไม่ถึงและยังไม่เกิด อย่างไรก็ตาม #เสี่ยวCREW เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้คริปโตฯ (อาจไม่ใช่ Libra อาจเป็นสกุลใดก็ได้) จะเป็นที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย “ชัวร์ๆ” เหตุผลการเดาไม่ยาก...

หน่วยงานกำกับดูแลไม่ว่าจะเป็น แบงก์ชาติ ก.ล.ต. ตลท. เริ่มเข้ามาหาแนวทาง กำหนดเกณฑ์ด้านต่างๆ เพื่อการใช้งาน การซื้อขาย อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น / แบงก์ชาติของหลายประเทศเริ่มทดลองทำระบบคริปโตฯของตัวเอง (ไทยก็มีนะชื่อ “อินทนนท์) / สื่อแขนงต่างๆเริ่มมีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตลาดคริปโตฯอย่างแพร่หลาย (เดิมทีมีแต่สื่อเฉพาะทาง) / สถาบันการเงิน-การลงทุนเริ่มให้ข้อมูลลูกค้าเกี่ยวกับคริปโตฯ

เอาล่ะก่อนอนาคตจะมาถึง มารู้เรื่องง่ายๆเกี่ยวกับอีนี่ไว้เป็นข้อมูลพื้นฐานแบบเบาๆกันก่อน


คริปโตเคอเรนซี่ทั่วโลกมีจำนวน 2,680 สกุลเงิน มูลค่ารวมประมาณ 2.97 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

เงินดิจิทัล (Digital Money) กับ สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ไม่ใช่อันเดียวกันนะเฟ้ยย

- เงินดิจิทัล คือ เงินสดของเราที่โอน ไปใช้ ไปเติมเงินใน e-wallet ของผู้ประกอบการต่างๆ มีสกุลเงินท้องถิ่นหนุนหลัง ตัวอย่างง่ายๆ เช่น บัตร 7-11 / TRUE / LINE / แอปฯของธนาคารพาณิชย์ ฯลฯ

- คริปโตเคอเรนซี่ คือ สกุลเงินที่ถูกสร้างขึ้นในระบบคอมพิวเตอร์ เงินแต่ละสกุลมีจำนวนจำกัด เช่น บิทคอยน์มีเพียง 21 ล้านบิทคอยน์ ควบคุมด้วยเทคโนโลยี blockchain ซึ่งทำหน้าที่ติดตามการเคลื่อนไหวของเงินแต่ละหน่วยและป้องกันการปลอมแปลง

คริปโตฯ ไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้ แต่สามารถใช้จ่าย ซื้อขาย โอน อยู่ภายในเครือข่ายต่างๆ มีข้อดีคือรวดเร็ว ปลอดภัย ต้นทุนต่ำ อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังไม่เป็นที่ยอมรับจากธนาคารกลางทั่วโลก เพราะไม่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ไม่ถูกใช้เป็นหน่วยกำหนดราคาสิ่งของ และผันผวนสูง

สำนักงาน ก.ล.ต.อนุญาตให้ ซื้อ-ขายแลกเปลี่ยน ทำธุรกรรมดิจิทัล ผ่าน 7 สกุลเงินดิจิทัลเท่านั้น เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือ ได้รับความนิยม มีสภาพคล่องสูง เหมาะกับการใช้งาน ประกอบด้วย 1.Bitcoin (BTC) 2.Bitcoin Cash (BCH) 3.Ethereum (ETH) 4.Ethereum Classic (ETC) 5.Litecoin (LTC) 6.Ripple (XRP) 7.Stellar (XLM)

สำหรับวันนี้เอาไปแค่นี้ก่อน เดี๋ยวมาต่ออีกเรื่อยๆรักนะจุฟจุฟ

ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย : www.investing.com

0 views0 comments
bottom of page