“การลงทุน 101” 10 โจทย์ต้องตอบก่อนซื้อหุ้น

“การลงทุน 101” 10 โจทย์ต้องตอบก่อนซื้อหุ้น #วิชาลงทุนไม่ค่อยถนัดแต่วิชารักผมได้เอ

ช่วงนี้ตลาดหุ้นเหมือนไบโพลาร์ ขึ้น-ลงวันละหลายสิบจุด อ่อนไหวต่อประเด็นต่างๆ เหลือเกิน ทั้งสงคราม โรคระบาด ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง น้ำมันแพง บลาๆ ... . นักลงทุนทั้งหลาย โดยเฉพาะรายย่อย รายยุ่ยอย่างเรา คงปวดหัวกันน่าดู พอซื้อปุ๊ปหุ้นลง พอขายปั๊ปหุ้นขึ้น สับสนอลม่าน . นั่นแหล่ะครับ!! คือการลงทุน มันมีความเสี่ยงอยู่แล้ว เขาถึงบอกว่าศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน ประมาณว่า "อย่าลงทุนในสิ่งที่ไม่รู้" . คอนเทนต์วันนี้ #เสี่ยวCREW จึงอยากพาย้อนกลับไปที่ "การลงทุน 101" กันใหม่ เพื่อย้ำเตือนใจกันอีกรอบ ว่า ก่อนจะซื้อหุ้นสักบริษัท มีคำถามที่ต้องตอบให้ได้เสียก่อน... . แน่นอนว่าไม่ใช่คำถามเหล่านี้: หุ้นตัวไหนจะขึ้นบ้างช่วงนี้ / อยากเล่นหุ้นบ้าง ซื้อตัวไหนดี / ต้องซื้อที่ไหน ขั้นต่ำกี่หุ้น / มีเงินเท่านี้ ซื้อหุ้นอะไรดี ให้มีเงินเท่านั้น ได้ปันผลสม่ำเสมอ / หุ้นตัวไหนเจ้าเข้า กำลังจะปั่นราคา / มีคนบอกว่าหุ้นนั้นดี ซื้อได้เลยไหม / หุ้นตัวนั้นเมื่อไหร่จะขึ้น ฯลฯ . เหล่านี้ล้วนแต่เป็นคำถามงี่เง่า ชวนขาดทุนมาก... . การลงทุนที่จะลดความเสี่ยงและความกังวลได้ ต้องตั้งคำถามใหม่และตอบให้ได้ อย่างน้อย 10 ข้อ ดังนี้ . 1. บริษัททำธุรกิจอะไร 2. ใครเป็นเจ้าของหรือผู้นำบริษัท 3. ประวัติผู้บริหารโปร่งใสหรือไม่ 4. ธุรกิจทำกำไรมากน้อยแค่ไหน 5. ระดับความสามารถของการแข่งขัน 6. คู่แข่งในอุตสาหกรรมมีใครบ้าง 7. ผลการดำเนินงานย้อนหลังเป็นอย่างไร 8. มีหนี้สินเท่าไหร่ สภาพคล่องดีแค่ไหน 9. แนวโน้มธุรกิจตจะเติบโตต่อเนื่องหรือไม่ 10. มูลค่าหุ้นเป็นอย่างไร ถูกหรือแพง . นี่คือโจทย์สำคัญอย่างน้อย 10 ข้อ ที่ต้องตอบให้ได้ก่อนซื้อหุ้น หากยังไม่รู้ก็ต้องศึกษาก่อนจนตกผลึก มิเช่นนั้นก็อย่าลองดีกว่าาา !! เพราะมันจะทำตัวเองให้เดือดร้อน และสุดท้ายก็ว่างเปล่าาหรือติดลบนะครับ มานั่งเครียด ตีโพยตีพายกันเลอะเทอะมันไม่เท่ห์หรอกบอกเลย . ความรู้ความเข้าใจในหุ้นที่เราจะซื้อ ถือเป็นภูมิคุ้มกันอย่างดีเวลาตลาดผันผวน เพราะมันลดภาวะทางจิตได้อย่างดีเลยครับ