คนไทยฐานะการเงินน่าเป็นห่วง
ข่าวปลดพนักงาน ปิด-ลดขนาดกิจการ
ผู้คนรอรับอาหาร ของกิน ของใช้จำเป็น
ผู้คนด่าทอเรื่องเงินเยียวยา เงินชดเชยประกันสังคม
ข่าวการขอรับบริจาคเพื่อบรรเทาความยากแค้น
การถดถอยของตัวเลขสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ ฯลฯ
กิจกรรมทางเศรษฐกิจเหล่านี้ทยอยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คนไทยจำนวนมากตกอยู่ในภาวะ
ไม่มีงาน ไม่มีเงิน และกำลังจะไม่มีกิน !!
โควิด-19 เป็นตัวการของสิ่งเหล่านี้ใช่ไหมจ๊ะ??
ถูกกก..แต่ไม่หมด!!
จริงๆต้องบอกว่าเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาชั้นเริ่ดน่าจะชัดเจนกว่า
ก่อนเกิดวิกฤตครั้งนี้ ฐานะการเงินของคนไทย
(คนธรรมดารากหญ้าสไตล์เรานะฮะ) แย่หนักอยู่แล้ว
หนี้สูง รายได้เติบโตช้า มีอาการชักหน้าไม่ถึงหลังมาตล๊อดดด
ซึ่งมันแสดงให้เห็นผ่านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงต่อเนื่อง
สวนทางกับหนี้เสียที่ค่อยๆปรับสูงขึ้น อันนี้แสดงอาการมาก่อนโควิด
ส่วน“เงินออม”ไม่ต้องพูดถึงใช้ยังไม่พอ จะให้เอาอะไรไปออม
สถิติข้อมูลบัญชีเงินฝากล่าสุด ณ มี.ค. 63 ของแบงก์ชาติระบุว่า บัญชีเงินฝากในประเทศไทยล่าสุด มีจำนวน 101.42 ล้านบัญชี รวมเงินฝาก 14.12 ล้านล้านบาท (ลดลงจาก ก.พ.อยู่ที่ 14.15 ล้านล้านบาท)
บัญชีที่มีมากสุด คือ บัญชีเงินฝากที่มีเงินไม่ถึง 50,000 บาท จำนวน 88.12 ล้านบัญชี (คิดเป็น 87% ของจำนวนบัญชีเงินฝากทั้งระบบ) มียอดรวมเงินฝากรวม 417,049 ล้านบาท (ลดลงจาก ก.พ.อยู่ที่ 418,843 ล้านบาท)
ถ้าจับหารแบบง่ายๆ โง่ๆ หาค่าเฉลี่ยของเงินในบัญชีกลุ่มนี้จะอยู่ที่ประมาณ 4,733 บาท/บัญชี
ถ้าพูดแบบมีหลักการตามงานวิชาการเค้าบอกว่า ค่าเฉลี่ยเงินฝากของคนไทยอยู่ที่ 10,442 บาท/บัญชี (ค่าเฉลี่ยจากบัญชีที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล หัวเมืองใหญ่)
ถ้าแบ่งสัดส่วนประชากรที่มีงานทำ 37.77 ล้านคน ด้วยเงินออมเค้าบอกว่า คนไทย 20% มีเงินออมไม่เกิน 1 เดือน / 45% ไม่เกิน 3 เดือน / 34% มีเงินออม 6 เดือน / 1% อยู่สบายหายห่วง
ถ้าสรุปง่ายๆ โง่ๆ อีกที คือ สถานการณ์รากหญ้าน่ากลัว น่าเป็นห่วงมากเลยฮะ
ภาระเดิมหนักอยู่แล้ว เงินสะสมมีน้อย ช่วงนี้รายได้หดหายไปอีก แม้จะมีเงินช่วยเหลือจากภาครัฐเข้ามาบ้างก็เพียงแค่ประทังชีวิต หลังจากนี้ หรือ หลังจบโควิด คนไทยหลายสิบล้านคนจะยังคงลำบากต่อเนื่อง เพราะหลายล้านคนอาจไม่มีงานให้กลับไปทำอีก ซึ่งนั่นจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ และเงินหมุนเวียนในระบบจำนวนมหาศาลเช่นกัน
ดังนั้นเผื่อใจไว้บ้างก็ดี หลังทุกอย่างเป็นปกติ การค้า ธุรกิจ มันคงไม่คึกคักดั่งคาด
ข้อมูลจาก: ธนาคารแห่งประเทศไทย / สำนักงานสถิติแห่งชาติ /ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี
ข้อมูลบัญชีเงินฝากเพิ่มเติม