ทุกขลาภของ KERRY #ส่งของล่าช้าไม่เป็นไรแต่อย่าลืมส่งใจถึงกันยามกักตัว #โควิดเป็นเหตุ #โปรดระวังตลาดซบ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวเน็ตแชร์รูปหน้าคลังขนส่ง KERRY กันอย่างสนุกสนาน พร้อมแคปชั่นประมาณว่า สินค้ากองอยู่นี่หมด คนส่งลาออกหมด งานหนัก เงินน้อย บลาๆๆ และเริ่มเห็นโพสท์เหล่านี้หนาตาขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งในเพจใหญ่ คอมเมนท์จะโคตรดุเดือดเลือดพล่าน ทั้งเหล่าพนักงานเอง พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ ลูกค้าที่รอรับของ ซัดกันยับบบ
#เสี่ยวCREW เห็นเรื่องนี้แล้วก็อดเผือกไม่ได้ฮะ มาดูกันหน่อยว่าเกิดอิหยังขึ้น
ปัจจุบัน 3 ผู้เล่นขาใหญ่ที่ครองตลาดขนส่งในประเทศร่วมกันกว่า 80% ประกอบด้วย ไปรษณีย์ไทย / KERRY Logistic / LAZADA Express ในสถานการณ์การเติบโตปกติคาดว่าในปี 2020 พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคจะทำให้ e-Commerce เติบโตจนมีสินค้าที่ต้องขนส่งกว่า 4 ล้านชิ้นต่อวัน แต่เกมส์ดันพลิกเมื่อเรามีโควิด-19 เข้ามา
คนออกจากบ้านไม่ได้-ออนไลน์โตผิดปกติ
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินยอดขายสินค้าออนไลน์ (E-Commerce) และบริการสั่งอาหารไปยังที่พัก (Food Delivery) ในช่วงระหว่างวันที่ 22 มี.ค. – 30 เม.ย. 2563 จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติราว 8,000 ล้านบาท (แบ่งเป็น E-Commerce 6,800 ล้านบาท Food Delivery 1,200 ล้านบาท)
- ผลสำรวจของ กสทช. พบว่ายอดการจับจ่ายผ่านออนไลน์เติบโตขึ้นกว่า 80% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2563
- Grab Food เผยยอดสั่งอาหารในช่วงโควิด-19 เติบโตสูงขึ้นถึง 3 เท่าจากช่วงเวลาปกติ
- JD Central เปิดเผยสถิติการสั่งซื้ออาหารประเภทข้าวสารและนม เพิ่มขึ้น 154% จากปีที่แล้ว
การพุ่งพรวดของความต้องการน่าจะดีต่อธุรกิจ?
แต่...ดันกลายเป็น “ทุกขลาภ”
เนื่องจากไม่ได้เตรียมการสำหรับการเติบโตแบบเฉียบพลันที่เกิดขึ้นอาการ “Over-load” จึงบังเกิดตามมา พนักงานในองค์กรงานหนักโฮกแต่ตังค์เท่าเดิม ทำให้เกิดการ Strike โดยมิได้นัดหมาย ส่งผลให้คลังสินค้าของ KERRY Logistic มีสินค้าคงค้างจำนวนมาก
เจ้าของสินค้าเริ่มติดตามสินค้าด้วยการบุกไปที่คลังสินค้า และเกิดเป็นความวุ่นวายบนโลกออนไลน์ตามมา ซวยสุดคงหนีไม่พ้น ชื่อเสียงของแบรนด์และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สั่นคลอนอย่างรุนแรง เป็นโอกาสให้ผู้เล่นรายกลางและรายย่อยเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาด
ซึ่งอาจทำให้ KERRY Logistic มีโอกาสเสียลูกค้าประจำที่มีโอกาสได้ไปลองของใหม่
KERRY ทำอย่างไร กับวิกฤติสั่นคลอนศรัทธาผู้บริโภคครั้งนี้ ?
เบื้องต้น KERRY ออกจดหมายปฏิเสธวิกฤติดังกล่าวไม่เป็นความจริง สาเหตุที่ของค้างจำนวนมากเพราะปริมาณพัสดุเพิ่มขึ้นจากปกติเป็นเท่าตัว ปัจจุบันบริษัทยังมีพนักงานจำนวนกว่า 20,000 คนพร้อมให้บริการ เตรียมจ้างงานเพิ่มอีก 1,000 อัตรา เพื่อเข้ามาช่วยบริหารจัดการส่งพัสดุ / ปรับเปลี่ยนระยะเวลาจัดส่งชั่วคราวจาก 1 วันเป็น 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละปลายทาง / จัดลําดับการจัดส่งพัสดุด่วนที่จําเป็นต่อสังคม 2 ประเภท อุปกรณ์การแพทย์ สินค้าป้องกันโควิด-19 และสินค้าที่มีวันหมดอายุซึ่งก็นับว่าเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ดี และเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ในระดับหนึ่ง
แต่…ตลาดนี้แข่งกันโหดเหลือหลายมาแต่ช้านาน ใครพลาดพร้อมโดนขยี้ซ้ำ มาใหม่เจ้าถิ่นพร้อมขย้ำ คงต้องจับตาดูพี่เบิ้มของวงการนี้จะซัดกันอย่างไรต่อ นาทีทองใครโกยได้มากน้อยขนาดไหน วิกฤตรอบนี้อาจทำให้ KERRY เพลี่ยงพล้ำไปบ้าง
แต่หลังจากจบโควิด-19 สิ่งที่ทุกรายควรกังวล คือ พายุใหญ่ทางเศรษฐกิจจะมาเยือน กิจการปิดตัวมากขึ้น ผู้คนตกงานมากขึ้น กำลังซื้อคงเหือดแห้งหนักมากกก
“สวรรค์ของตลาดออนไลน์และการขนส่ง” จะยังมีอยู่ไหม?