top of page

ทำไม “ต่างชาติ” ขายหุ้นไทย ?



ตลาดหุ้นไทยผันผวนค่อนข้างหนักในเดือนแห่งความรักที่กำลังจะผ่านพ้นไป หลังจากแรลลี่แดนบวกมาพักใหญ่ (แม้เศรษฐกิจจะแย่ โควิดระบาดซ้ำ) เพราะแรงซื้อนำของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ

หากเราคิดย้อนกลับไปช่วงหวานชื่นตอนนั้น บางท่านอาจพอจำได้ ว่า ... โบรกฯต่างชาติหลายแห่ง “ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย” แถมยัง “ปรับราคาเป้าหมายหุ้นใหญ่หลายตัวเพิ่มขึ้น” พร้อมทั้ง “โชว์ยอดซื้อสุทธิให้เห็นต่อเนื่อง” จนพาลทำให้นักลงทุนกลุ่มอื่นๆตามเข้าไปเทรดกันอย่างสนุกสนาน และหลายคนมั่นใจว่า “ต่างชาติน่าจะซื้อยาว-เงินไหลเข้าต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตามหากย้อนดูการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบัน “ขายสุทธิ” • ม.ค. 64 ขายสุทธิ -10,902.96 ล้านบาท • 1-23 ก.พ. 64 ขายสุทธิ -8,809.03 ล้านบาท • 1 ม.ค.-23 ก.พ. 64 ขายสุทธิ -19,711.99 ล้านบาท

ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ระบุเหตุผลแรงขายต่างชาติในเดือน ก.พ.นี้ เกิดจากสาเหตุหลัก 3 ประการ

1. การระบาดของโควิดระลอกใหม่ในไทย ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยที่แย่ลง ซึ่งสะท้อนได้จากการปรับลดประมาณการ GDP ของเกือบทุกสำนักวิจัย รวมทั้ง IMF ที่ล่าสุดคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพียง 2.7% ในปีนี้ ซึ่งต่ำที่สุดในอาเซียน และเกือบจะต่ำที่สุดในโลก

2. ความล่าช้าในการจัดหาวัคซีนโควิดเมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศ ยิ่งซ้ำเติมให้นักลงทุนมีความมั่นใจลดลง เพราะในฐานะประเทศท่องเที่ยว ไทยอยู่ในกลุ่มเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เร็วที่สุดเพื่อรองรับการเปิดประเทศ แต่ไทยกลับกลายเป็นประเทศในกลุ่มท้ายๆ ที่จะสามารถจัดหาวัคซีนในจำนวนที่เพียงพอได้

3. การกลับมาแข็งค่าของเงินดอลลาร์ในปีนี้ บวกกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประธานาธิบดีไบเดน ทำให้เม็ดเงินจำนวนมากไหลกลับเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ แทนที่จะไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่เหมือนที่เคยคาดกัน ส่งผลให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นเอเชียหลายตลาด เช่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ รวมทั้งไทย

มองไปข้างหน้าเชื่อว่า โอกาสที่จะเห็นเม็ดเงินต่างชาติไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยอีกครั้งยังมีสูง เพราะหลายปัจจัยที่ชะลอการไหลเข้าของเงินในช่วงนี้ เป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นการระบาดระลอกใหม่ในไทย หรือการจัดหาวัคซีนที่ล่าช้า โดยเฉพาะเรื่องค่าเงินดอลลาร์ ที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่ามีทิศทางอ่อนค่า ทั้งจากการอัดฉีดเม็ดเงิน QE ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายแท้จริงของสหรัฐที่ยังคงติดลบ รวมทั้งการขาดดุลการคลังและดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับที่สูงมาก ทั้งหมดนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้นักลงทุนโยกเงินกลับเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่ในระยะถัดไป

นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยมีข้อได้เปรียบอีกหลายตลาดเกิดใหม่ ตรงที่ดัชนี้หุ้นยังต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด ในขณะที่หลายตลาดพ้นจุดนั้นไปแล้ว อีกทั้ง Valuations ของตลาดหุ้นไทยถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับกลุ่มตลาดหุ้นในอาเซียน และความที่หุ้นไทยเกือบทั้งหมดเป็นประเภท Old Economy ผลประกอบการในปีนี้และปีหน้าจะได้อานิสงส์เต็มๆ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกปัจจัยสำคัญที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติกลับมา คือ แผนการฉีดวัคซีนและการเปิดประเทศที่เป็นรูปธรรม รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่องไปอีกระยะ ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามนี้ เราน่าจะได้เห็นเม็ดเงินต่างชาติทยอยไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยในไม่ช้า

ขอบคุณข้อมูล : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

16 views0 comments
bottom of page