top of page

ฤาหุ้นไทยจะทำนิวโลว์ !!! กูรูคาด SET ดิ่งถึง 1,510 จุด



ฤาหุ้นไทยจะทำนิวโลว์ !!! กูรูคาด SET ดิ่งถึง 1,510 จุด #หุ้นทำนิวโลว์ไม่ใช่จุดจบแต่เธอไม่ยอมคบอันนี้จบแน่นอน

หลุดแนวรับลงมาเรื่อยๆ เลยนะครับหุ้นไทยของพวกเราชาวเสี่ยวทั้งหลาย วันนี้ลงไปต่ำสุดถึง 1,525.93 จุด ลดลง 142.73 จุด หรือ 8.55% จากสิ้นปีก่อน . ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหุ้นราคาบิ๊ก อย่างพี่ DELTA (888) ลงแรงต่อเนื่อง ล่าสุดปิดการซื้อขายภาคเช้าวันนี้ที่ 770 บาท ลดลง 126 บาท หรือ 14% โดยการลดลงของหุ้นตัวนี้กดดัชนีไปถึง 9.41 จุด (ภาคเช้า SET ลง 10.92 จุด) . แต่ DELTA ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดนะครับ เพราะหุ้นไทยลงมาตลอดเดือน เม.ย.เลย ด้วยความข้องใจจึงไปขอความรู้จากบรรดากูรูนักวิเคราะห์ ได้ใจความว่า ตลาดหุ้นไทยถูกปัจจัยลบกดดันทั้งในและต่างประเทศ แถมไม่มีปัจจัยบวกใหม่มาสนับสนุน จึงทำให้สภาพออกมาแบบที่เห็น คือ ไถออกข้างไปทางลง แถมมูลค่าการซื้อขายก็หยุมหยิมจุ๋มจิ๋มมากเมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ยปกติช่วงหลายปีหลัง . คาดการณ์กันว่าระยะสั้นๆ นี้หุ้นไทยมีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับถึง 1,510-1,520 จุดเลยทีเดียว แม้จะยังคงประมาณการณ์กรอบดัชนีทั้งปีกันอยู่ในระดับเดิม . "มงคล พ่วงเภตรา" ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ SET Index ปรับตัวลงต่อเนื่องพร้อมปริมาณการซื้อขายที่เบาบางช่วงนี้ เพราะตลาดต่างประเทศยังคงรอผลการประชุม Fed ช่วงสัปดาห์หน้า . ขณะที่ผลประกอบการของ บจ. ไทยในช่วงไตรมาส 1/66 มีแนวโน้มไม่สดใสนัก คาดว่าดัชนีฯ มีโอกาสลงไปต่ำสุดบริเวณ 1,510 จุด แต่ยังคงกรอบ SET Index ปี 66 ไว้ที่ 1,560 - 1,730 จุด โดยจะมีการประเมินอีกครั้ง หลังการรายงานงบการเงินไตรมาส 1/66 เสร็จทั้งหมด เพราะจะทำให้ได้ตัวเลขที่แน่ชัด . "เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส มองว่า สาเหตุที่ทำให้ SET Index ซึมลงช่วงนี้ เพราะไม่มีสตอรี่ใหม่ๆ เข้ามา รวมถึงสัปดาห์หน้าตลาดหุ้นไทยเปิดทำการแค่ 2 วัน และส่วนใหญ่ยังคงรอดูผลการเลือกตั้งในช่วงกลางเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัด Sentiment ตลาดในระยะถัดไป ประเมินจุดต่ำสุดบริเวณ 1,520 จุด แต่ยังคงกรอบ SET Index ทั้งปีที่บริเวณ 1,549 - 1,610 จุด . โดยมองว่า ปัจจัยที่จะทำให้ SET Index กลับมา Outperform ได้อีกครั้ง คือ การกลับมาของ Fund Flow ซึ่ง ณ ตอนนี้ ยังเป็นจุดของการรอคอย และดูสถานการณ์ต่างๆ อยู่ . "กิจพณ ไพรไพศาลกิจ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินว่า ตั้งแต่ต้นปีหุ้นไทยถูกปรับประมาณการลงหลายครั้ง เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ สะท้อนว่ากำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีแนวโน้มอ่อนตัวกว่าคาด . ขณะเดียวกันหุ้นไทยมีหลายอุตสาหกรรมที่อิงกับปัจจัยต่างประเทศที่สถานการณ์ยังไม่ดีเท่าไรนัก เช่น กลุ่มพลังงาน, แพคเกจจิ้ง และปิโตรเคมีภัณฑ์ ทำให้ภาพการลงทุนช่วงนี้ซึมลง ประเมินว่า ดัชนีจะทำจุดต่ำสุดในรอบนี้บริเวณ 1,520 จุด อย่างไรก็ตาม ยังคงเป้ากรอบ SET Index ณ สิ้นปี 66 ที่ 1,520 - 1,740 จุด แต่หลัง บจ. ประกาศงบการเงินไตรมาส 1/66 เสร็จทั้งหมด จะมีการพิจารณากรอบ SET Index อีกครั้ง ว่าจะมีการปรับลง หรือคงเป้าเดิม . "ณรงค์เดช จันทรไพศาล" รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า มองว่าตลาดหุ้นไทย ต้องเผชิญปัจจัยลบทั้งภายในประเทศและต่างประเทศพร้อมกัน โดยภายนอกถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐ ทั้ง PMI และการจ้างงาน มีการชะลอตัวลงต่อเนื่อง แต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กลับมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตราเร่งต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงดูท่าทีของ Fed ในระยะถัดไป . ส่วนปัจจัยภายในประเทศ สัปดาห์หน้าตลาดหุ้นไทยจะเปิดทำการแค่ 2 วัน ทำให้ไม่ค่อยมีนักลงทุนอยากเข้ามาลงทุนในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้เท่าไรนัก ประกอบกับงบการเงินไตรมาส 1/66 ของกลุ่มพลังงานฯ ซึ่งมีมาร์เก็ตแคปใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทย มีแนวโน้มไม่ค่อยสู้ดีนัก . นอกจากนี้ ยังมีความไม่ชัดเจนของการเมืองในประเทศ หลังผลโพลล่าสุด มีการประเมินว่า การแลนด์สไลด์ชนะการเลือกตั้งมีแนวโน้มไม่เกิดขึ้น จะยิ่งทำให้การจัดตั้งรัฐบาลที่มีสเถียรภาพทำได้ยากขึ้นเช่นกัน ซึ่งโดยปกติแล้วนักลงทุนต่างประเทศ (Fund flow) มักชอบรัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก และมีการต่อรองทางการเมืองที่เข้มแข็ง จึงทำให้ยังกดดันการไหลเข้าของ Fund flow อยู่บ้าง . ทั้งนี้ ประเมินว่า SET Index กำลังอยู่ในช่วงขาลง มีแนวรับลึกสุดที่บริเวณ 1,520 จุด แต่ยังคงประมาณการณ์กรอบ SET index ปี 66 ที่ 1,540 - 1,760 จุด เนื่องจากมองว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มพลังงานฯ จะกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 66 ตามทิศทางราคาน้ำมันฟื้นตัว จากการเปิดประเทศเต็มที่ของจีน และวัตถุดิบน้ำมันในตลาดที่เริ่มตึงตัว . สำหรับปัจจัยที่จะทำให้ SET index กลับมาฟื้นตัวได้ คือ ความชัดเจนการดำเนินนโยบายทางการเงินของ Fed ที่เพิ่มมากขึ้น, การฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจจีน และความชัดเจนทางการเมืองในประเทศของไทย . ส่วนกลยุทธ์การลทุน ให้เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อย่างเช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และค้าปลีก ที่มีความโดดเด่นในแง่ผลการดำเนินงานฟื้นตัว และหาจังหวะเข้าซื้อในช่วงที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมา ซึ่งมองเหมือน บล.เอเซีย พลัส ที่แนะนำ สะสมหุ้นในกลุ่มค้าปลีก, อาหาร และธนาคารพาณิชย์ เพราะผลการดำเนินงานปีนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวโดดเด่น . "กิจพณ ไพรไพศาลกิจ" เสริมว่า สถิติย้อนหลังพบว่าช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเลือกตั้ง และ 1 เดือนหลังเลือกตั้ง SET Index มักให้ผลตอบแทนที่ดี คาดการณ์ว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงดังกล่าว จะทำให้หุ้นไทยฟื้นตัวได้ตามสถิติ ส่วนอีกปัจจัยหนุน SET Index กลับมาฟื้นตัว คือ การดำเนินนโยบายทางการเงินของ Fed ใกล้ถึงจุดพีคแล้ว . แนะนำ สะสมหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวที่ราคาปรับตัวลงมา อาทิ ค้าปลีก, ท่องเที่ยว มีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน, กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม มีปัจจัยหนุนจากการย้านฐานการผลิต และกลุ่มโรงไฟฟ้า มีปัจจัยหนุน จากดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุด . ปิดท้ายที่ "มงคล พ่วงเภตรา" ระบุว่า ปัจจัยที่จะทำให้ SET Index ฟื้นตัวได้ คือ การเข้าใกล้ช่วงเลือกตั้ง และหลังประกาศผลเลือกตั้ง จะเป็น Sentiment บวกต่อตลาด ประกอบกับ ตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศดูดีขึ้น ส่วนตอนนี้แนะนำถือเงินสด เพื่อรอดูจังหวะที่ตลาดทำโลว์ใหม่ คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน 3 สัปดาห์นี้ จากนั้นค่อยเข้าลงทุนในหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมาลึก แต่ผลการดำเนินงานปี 66 ยังมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง...

3 views0 comments
bottom of page