#ทำความรู้จักคุณค่าของเงิน สร้างความเข้าใจว่าเงินทุกบาทมีมูลค่าของมัน บางทีเงินน้อยก็สร้างมูลค่าแห่งความสุขได้ ยิ่งสอนให้รู้ได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี อยากขอยกตัวอย่างบางอันที่ใช้สอนหลานๆด้วยการตั้งกฎ ว่า ถ้าใครตื่นมาก่อน และพาเดี๊ยนไปหาไรกินได้ก่อน จะได้สิทธิ์ในการซื้อของอะไรก็ได้มูลค่า 100 บาท โดยที่เดี๊ยนจะพาหลานไปซื้อด้วยตัวเอง ซึ่งครั้งแรกที่ไปกัน เหตุการณ์เป็นแบบนี้
หลาน: คุณน้าคะ ของที่เลือกมาครบแล้วค่ะ เราก็นับๆ บวกๆ สรุปคือ เกินมาเป็น 111 บาท เดี๊ยนก็เลยบอกว่า
เดี๊ยน: คิดว่าเงินนี้เยอะไหมจ๊ะ รู้ไหมว่ากว่าที่น้าจะได้เงินนี้มาต้องทำงานกี่ชั่วโมง ถ้าหนูจะขอเพิ่ม นั้นแสดงว่าน้าต้องทำงานเพิ่ม และน้าก็จะไม่ได้กลับบ้านแบบนี้ หลานอยากให้เป็นแบบนั้นไหม หลาน: แต่หนูอยากกินค่ะ คุณน้าซื้อให้หนูนะคะ
เรา: น้าซื้อให้ก็ได้ แต่ว่าต่อไปน้าก็จะไม่พาหนูมาอีก ด้วยเหตุผล 2 ข้อคือ 1.หนูผิดสัญญา และ 2. น้าต้องทำงานมากขึ้น เพื่อชดเชยเงินที่ซื้อในวันนี้และน้าก็จะไม่ได้กลับบ้านอีกนานเลย และผลที่ตามมาคุณตาคุณยายก็จะคิดถึงน้า คุณตาคุณยายก็จะไปหาน้าที่กรุงเทพ โดยที่ไม่พาหนูไป หนูก็จะอดไปกรุงเทพ เห็นไหมว่า เงิน 11 บาทในวันนี้มันส่งผลกระทบแค่ไหน
หลาน:……………. (ยืนอึ้งไปหลายนาที)
หลาน: งั้นหนูเลือกขนมออกนึดนึง เพราะว่าหนูอยากไป กรุงเทพ
เดี๊ยน: (คิดในใจ) เอาว่ะถึงแม้ว่าจะไม่รู้เรื่องค่าของเงินในวันนี้ แต่ก็ยังดีที่ได้สอนให้ได้ตัดสินใจ 555 Tips จะสอนให้รู้ค่าเงิน เราต้องเริ่มที่ตัวเราเอง ให้เค้าเห็น จำ แล้วนำไปใช้ เริ่มต้นจากน้อยๆก่อน แล้วค่อยๆเพิ่มจำนวน เค้าจะได้โตไปพร้อมเงิน
#เงินงอกเงยได้ นอกจากสอนให้รู้จักค่าของเงินแล้ว ต้องให้รู้จักด้วยว่า เงินมันสามารถเติบโตได้ สอนให้รู้จักการเก็บเงินด้วย แต่การเก็บก็ไม่จำเป็นต้องเก็บแค่อย่างเดียว เงินมีที่เก็บได้หลายที่ เริ่มต้นตอนเด็กเงินก็มีเวลาโตได้เยอะนะจ๊ะ เช่น ตอนเด็กให้เริ่มรู้จักแบ่งเงินก่อนนะ จะกินเท่าไหร่ จะเก็บเท่าไหร่ ไม่ต้องถึงแบบเก็บ 40% ใช้ 60% หรอก เอาแบบให้ไป 20 บาท เหลือหยอดวันละ 5 บาทก็โอเคแล้ว
ถ้าเค้าทำจนเป็นนิสัย วินัยก็จะมาเอง แล้วพอออมไปได้สักพัก ค่อยพาไปฝากเงิน ไปซื้อกองทุน ไปซื้อประกัน ไปลงทุนเพิ่ม ซึ่งเคล็ดไม่ลับที่เราว่าดีก็คือ ก่อนจะพาไปทำอะไรให้คุยกับเด็กๆก่อนทุกครั้ง และตอนไปทำก็พยายามพาลูกพาหลานไปทำด้วยทุกครั้ง เด็กๆจะได้เลือก ตัดสินใจ และทำ ด้วยตัวเอง