top of page

เงินเดือน "เด็กจบใหม่"



หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง ปัญหาสำคัญของเด็กจบใหม่และแทบทุกครอบครัวคนชั้นกลาง คือ จะมีงานทำไหม จะโดนปลดกลางอากาศหรือเปล่า ค่าตัวเด็กจบปริญญาตรีสตาร์ทกันแถวๆ 6-8 พันบาท ใครมีงานทำถือว่าเป็นบุญ ไม่เลือกงานไม่อดตาย

ภาพตัดมาที่ปัจจุบัน รายงาน“ข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษาและประมาณการผู้เข้าสู่ตลาดแรงงานปี 2560” ของกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เด็กจบใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานปี 2560 และ 2561 มีรวมกัน 1,189,621 คน เด็กจบใหม่ระดับปริญญาตรีจะเข้าสู่ตลาดแรงงานมากที่สุด 738,218 คน อีกทั้งยังมีปัญหาการจบมาจากสาขาที่ไม่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน แล้วไหนจะการเรียนตามพ่อ ตามแม่ ตามเพื่อน เรียนโดยไม่รู้ว่าตัวเองรัก หรือชอบอะไร

สวัสดีคนรุ่นใหม่นี่เราเองมนุษย์ยุคต้มยำกุ้ง เรามีอะไรจะบอก “สมัครงานวันนี้เงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท/เดือนนะ รู้ยัง”

น้องๆบางคนเบ้ปากให้กับตัวเลขอันน้อยนิด พร้อมคิดในใจว่ามัน “โหลยโท่ย” จัง จะไปใช้อะไรพอ บางคนอาจจะเรียกร้องมากกว่า เพราะความมั่นใจใน Portfolio ของตัวเอง โฟกัสของการเริ่มต้นชีวิตการทำงานของหลายคนจึงมีอยู่แค่ “ผลตอบแทนเป็นอย่างไร เงินเดือนเท่าไหร่ ค่าคอมมีไหม เงินพิเศษมีอะไรบ้าง มีวันหยุดกี่วัน มีสวัสดิการอะไรบ้าง”

แต่สิ่งที่บริษัทจะโฟกัสกับพนักงานใหม่ คือ "ทำอะไรให้บริษัทได้บ้าง"

การจ้างพนักงานหนึ่งคนเป็นการลงทุนของบริษัท สิ่งที่คุ้มค่าต่อการจ้างงานของบริษัท ไม่ใช่การจ่ายเพื่อสิ่งที่คุณสำเร็จมา ดังนั้น ไม่ว่าจะสถาบันที่คุณจบมา เกรดเฉลี่ย หรืออะไรก็แล้วแต่ อย่าไปหลงระเริงกับมันมากนัก เพราะบริษัทจะจ่ายเพื่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ถ้าเปรียบเทียบกับหุ้น ประวัติดี ผลประกอบการในอดีตดี แผนดี ก็สามารถเรียกร้องความสนใจจากผู้ลงทุนได้ระดับหนึ่ง แต่เมื่อซื้อมาถือแล้ว สร้างประโยชน์ ผลกำไร หรือ สร้างความหวาดหวั่นใจ ให้ผู้ลงทุนมากกว่ากัน ปัจจัยเหล่านี้ต่างหากคือสิ่งที่จะตัดสินอนาคต

ดังนั้นถามตัวเองก่อน ว่า คุณ...คือการลงทุนที่คุ้มค่าหรือยัง มีแววมากพอหรือเปล่า ?

และหากคุณต้องการอยู่ใน Position ที่ถูกต้อง ทำในสิ่งที่ชอบ อยากอยู่ตรงไหนจงพาตัวเองไปตรงนั้นและอย่าลืมทำตัวเองให้เป็นบุคคลที่น่าลงทุน ส่วนพวกคำคมเท่ห์ๆ ที่บอกว่า "เรียนแทบตาย จบมาเป็นขี้ข้าห้องแอร์ได้เงินเดือน 15,000" โยนแม่งทิ้งไปซะ เพราะมันคือคำปลอบใจตัวเองของ Loser ที่ไม่สามารถเอาชนะและพัฒนาตัวเองได้

มึงบ้าเหรอ !!! มึงจะ 15,000 ไปตลอดชีวิต มึงต้องเป็นคนประเภทไหน? ทำงาน 3 ปี 5 ปี ไม่มีปรับเงินเดือน มึงออกไปเปิดร้านกาแฟ ใช้ชีวิตฮิป-สะ-เตอร์ แหละถูกแล้ว ถอยให้คนมีศักยภาพเค้าเข้ามาสร้างสรรค์ประโยชน์ให้องค์กรเหอะ บริษัทไม่ได้จ้างคุณมารับเงินเดือน แต่จ้างมามีส่วนในการสร้างรายได้ให้องค์กร

ขออนุญาตแนะนำวิธีวิเคราะห์ความคุ้มค่าของตนเองต่อบริษัทง่ายๆ คือ สามารถมีส่วนร่วมในการสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างน้อยเป็น 3 เท่าของเงินเดือนหรือยัง? อันนี้แค่อย่างน้อย ที่คุณจะอยู่รอดได้อย่างไม่เติบโต หากคุณอยากเติบโต ต้องเยอะกว่านี้

ชีวิตนี้จบมาทั้งทีอย่าทำตัวเป็นแรงงานแกนๆ ที่ทำงานด้วยความทนๆทำไป ถ้าไม่ทนก็ต้องอด สุดท้ายองค์กรกลายเป็นผู้รับภาระของผู้ที่ทำงานด้วยใจไม่รัก ไม่มีแรงบันดาลใจ เช้าชาม เย็นชามไปเรื่อย ผลงานที่ได้ก็ห่วยแตก

เงินเดือน 15,000 บาท มันแค่จุดเริ่มต้น มันไม่ได้ต่ำต้อยหากรู้จักใช้ชีวิตให้เป็น มีความพยายาม ทำตัวเองให้มีการพัฒนาตลอด หลักล้านทำไมจะหาไม่ได้ แหม่ !!!

0 views0 comments
bottom of page