เงินเฟ้อกระทบอะไรบ้าง ?

เงินเฟ้อกระทบอะไรบ้าง ? #เห็นเงินเฟ้อแล้วมันฟุ้งซ่าน #แต่มีเธอข้างๆแล้วมันฟรุ้งฟริ้ง

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ค.65 พุ่งไปถึง 7.1% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุหลักเพราะราคาน้ำมันพุ่งพรวดกระฉูดแตกถึง 37% หลังมีสงครามรัสเซีย-ยูเครน . หลายคนตั้งคำถาม เงินเฟ้อเพิ่มแล้วไง ? มีผลกระทบอะไร ? . เงินเฟ้อถ้าแปลแบบบ้าน ๆ ง่าย ๆ ก็คือ ราคาสินค้าและบริการ มันแพงขึ้น จนทำให้มูลค่าเงินมันลดลง ซื้อของได้น้อยลง . ตัวอย่างง่าย ๆ ราคาน้ำมันนั่นแหล่ะ ตอนนี้ลิตรละ 40-50 บาท ปลายปีก่อนแค่ไม่ถึง 30 บาท นั่นแปลว่าเงิน 100 บาทจะเติมน้ำมันได้น้อยลงโขเลยล่ะ . แต่ที่น่าเศร้าใจคือรายได้พวกเรายังเท่าเดิม !!! . และการที่ราคาน้ำมันแพงขึ้นมาก ส่งผลต่อต้นทุนของผู้ขายสินค้าและบริการ สิ่งที่ตามมา คือ ราคาสินค้าและบริการจะแพงขึ้นตามไปด้วยในที่สุด . สถิติของกระทรวงพาณิชย์เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา สะท้อนภาพภาวะของแพงได้อย่างชัดเจน เพราะราคาเพิ่มขึ้นเกือบทุกกลุ่มสินค้าและบริการ จนทำให้มีการปรับคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้ขึ้นกว่าเท่าตัวเป็น 4 - 5% จากเดิมแค่ 0.7 - 2.4% . เงินเฟ้อนอกจากจะทำให้ข้าวของแพงแล้ว สิ่งที่ประชาชนคนไทยจะได้รับผลกระทบตามมา คือ อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น (แบงก์ชาติอาจจะนโยบายขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ) ใครที่มีหนี้สินอยู่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ได้รับผลกระทบแน่เต็ม ๆ . และหากเงินเฟ้อยังขึ้นไม่หยุด จะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจได้ เพราะของแพงขึ้น กำลังซื้อลดลง ธุรกิจก็จะขายสินค้าและบริการไม่ได้ แต่หลายสำนักวิจัยมองปัญหานี้แค่ระยะสั้นช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน แหล่ะ เดี๋ยวพอคลี่คลายอะไรคงจะดีขึ้น (ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะ) . แล้วเราจะรับมือกับเงินเฟ้ออย่างไร มี 2 แนวทางครับ 1.ประหยัดไปก่อน อันไหนยังไม่จำเป็นก็งด ๆ ไปก่อน หรือ 2. หากประหยัดทำยาก ก็หาเงินเพิ่มให้มาก ๆ เพียงพอต่อการใช้จ่าย (สู้ ๆ นะ ^^) . แล้วในแง่ "การลงทุน" จะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง ? . ที่เกิดแล้ว คือ เงินทุนต่างชาติไหลออก ครับ เพราะ 5 วันทำการหลังต่างชาติเปลี่ยนสถานะเป็นขายสุทธิแล้ว จากก่อนหน้านี้ยังซื้อเอา ๆ เพราะสหรัฐฯ เริ่มขึ้นดอกเบี้ย เงินจึงไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง . ภาวะที่จะตามมาคือ ปริมาณการซื้อขายหุ้นไทยจะลดลง Sentiment ตลาดจะเงียบเหงา ตามสภาพคล่อง . ธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์หลายกลุ่มจะมีปัญหาด้านต้นทุน กดความสามารถการทำกำไรลดลง แม้จะมีการปรับเพิ่มราคาสินค้าตามเงินเฟ้อ แต่กำลังซื้อก็ลดลงเช่นกัน . อย่างไรก็ตาม มีบางธุรกิจที่จะโดดเด่นช่วงที่เงินเฟ้อสูง เช่น กลุ่มพลังงาน และ ส่งออกอาหารต้นน้ำ เพราะเป็นกลุ่มที่สามารถกำหนดทิศทางราคาตามอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นได้ หรือกลุ่มโรงพยาบาล แม้จะมีการปรับราคาขึ้น แต่เป็นบริการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต . นอกจากนี้กูรูนักวิเคราะห์หลายท่าน ยังแนะนำให้กระจายความเสี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ไม่กระจุกตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เพราะแต่ละภาวะจะมีบางสินทรัพย์ที่เป็นพระเอกและผู้ร้ายเสมอ...