เทศกาลอุปโลกน์ตลาดหุ้น
เราอยู่กับเศรษฐกิจพัง แต่..ตลาดหุ้นพุ่งมาสักพักแล้วนะฮะ
จากโคม่า..ดัชนีหลุดพันจุด เพียง 3-4 เดือนก็กลับมายืน 1,300 ได้
ทั้งๆที่ความป่วยจากวิกฤตโควิด-19
และวิกฤตเศรษฐกิจมิเคยหายไปไหน
ถึงตอนนี้..อาการของมันดูหนักหนากว่าเดิมด้วยซ้ำ
#เสี่ยวCREW ก็ถือว่าเป็นบุญมากนะฮะที่เกิดมาครั้งหนึ่ง
ได้สัมผัสเห็นปรากฎการณ์เทรดกันด้วยความหวังล้วนๆ
ข้อมูลแต่ล่ะสิ่งที่เป็นปัจจัยให้ตลาดบวกล้วนอุปโลกน์กันมันเลย
ใครที่กล้าตอนทุกคนกลัว เชื่อว่าตอนนี้คงได้ยิ้ม
ใครที่จับจังหวะเข้าๆออกๆได้ถูก
เชื่อว่าคงทำกำไรไปหลายรอบเช่นกัน
อย่างไรก็ตามฮะเราเชื่อว่า
ตอนนี้ใกล้เวลาของเทศกาลอุปโลกน์เรื่องใหม่แล้ว
เนื่องจากเหตุผลต่อไปนี้
• ตลาดหุ้นเริ่มแพงแล้วนะจ๊ะ
เมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจ และยิ่งแพงหนักเมื่อเทียบกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน สิ่งนี้จะเป็นข้ออ้างให้คนเหล่านั้นออกประมาณการใหม่ ว่า มันแพงไปแล้วนะพวกแก ดูสิผลประกอบการไม่สะท้อนราคาเลย อนาคตก็หน้ากังวล ผลกระทบจากโควิด-19 น่าจะหนักและนานกว่าที่คาดไว้ บลาบลาบลา อยู่ๆก็มีเป็นร้อยเหตุผลที่เธอจะไปขึ้นมาซะงั้น
(เอ่อ..ตอนนี้พวกพี่ยังหวังว่ามันจะดีอยู่เลยนะ เราเปิดเมืองแล้วไตรมาส3 ดีขึ้นนะ เปลี่ยนใจง่ายจังวุ้ย)
• เงินไหลออกไปเก็งกำไรที่อื่น
เงินที่ไหลเข้าตลาดตอนนี้ คือ สภาพคล่องจาก QE จำนวนมหาศาล ซึ่งมันไหลเข้ามาด้วยเหตุผลที่ว่า “ไทยเป็นตลาดที่ผลตอบแทนดี” ก็อาจเปลี่ยนใจตามเหตุผลข้อแรกแบบกะทันหัน และพร้อมไหลไปเข้าที่อื่นด้วยข้ออ้างว่า สภาพเศรษฐกิจโอเคกว่า ผลประกอบการบริษัทดูดีกว่า
ก็อย่างว่าเงินมันร้อนอ่ะเนาะ Carry Trade พวกนี้พร้อมไปไหนก็ได้ ไม่สนใจใดๆอยู่แล้วนอกจากกำไร ไอ้เราจะไปเดาใจให้ขาดว่าเอาไง หรือมัดใจเขาให้อยู่แต่ตลาดหุ้นไทย มันก็คงจะยากยิ่ง
เมื่อสิ่งเหล่านี้มาถึง ตลาดหุ้นคงวิปริตแปรปรวนทันใด
คงผันผวนอย่างสนุกสนาน
ท่านใดที่ลุยกันอยู่ก็จับสัญญาณหน่อยนะจ๊ะพลาดท่าไปมันจะไม่งาม
สถานการณ์เศรษฐกิจการลงทุนต่อจากนี้
ต้องระมัดระวังให้มากอย่าหลงระเริงใช้เงินกับการลงทุนจนเกินไป
จงเก็บเงินไว้ใช้เพื่อสิ่งจำเป็นในชีวิต
และประคับประคองอนาคตให้ผ่านวิกฤตไปน่าจะดีกว่า
เพราะมันยังอยู่กับเราไปอีกนาน จนอยากอ้วก
ดูน้อยลง