top of page

6 ไอพีโอเขย่าขวัญ เลือกหุ้นอย่างไร? ไม่ขาดทุน



6 ไอพีโอเขย่าขวัญ เลือกหุ้นอย่างไร? ไม่ขาดทุน #ซื้อไอพีโออาจทำให้ขาดทุนอยากเจอแต่คุณอาจทำให้ขาดใจ “หุ้นไอพีโอ” เดิมทีเคยเป็นความหวังของนักลงทุนหลายๆ ท่าน เพราะเมื่อเข้าซื้อขายวันแรกราคามักจะพุ่งพรวดหลายเท่าตัว ทำเอาคนที่ได้หุ้นฟินกับกำไรก้อนใหญ่ไปตามๆ กัน . แต่...ไอพีโอหลายตัวที่เข้าเทรดปีนี้ไม่เป็นเช่นนั้น กลับเป็น “ความบอบช้ำ” เนื่องจากราคาไม่พุ่งพรวดอย่างที่เคยเป็น ซ้ำร้ายเปิดซื้อขายด้วยราคาต่ำกว่าจอง หนักหน่อย คือ เปิดอย่างซิ่ง ปิดอย่างเศร้า . จากต้นปีถึงปัจจุบัน (14 ก.ค. 66) มีบริษัทขายไอพีโอเข้าเทรดแล้วจำนวน 19 บริษัท แบ่งเป็น SET จำนวน 7 บริษัท mai จำนวน 12 บริษัท ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีหุ้นไอพีโอ 6 บริษัท ที่ราคาซื้อขายปัจจุบันยังคงต่ำกว่าจอง ลากรายย่อยหลายท่านไปนั่งเหงาอยู่บนดอย (มีใครบ้างดูเอาในภาพนะจ๊ะ) . ในฝั่งคนอยากขาย คนอยากระดมทุน ก็ดูคึกคักดีครับ แต่ !! ในฝั่งคนซื้อ สถานการณ์เยี่ยงนี้หลายคนคง “แหยง” พร้อมบอกเพื่อนให้ “หนีไป” เพราะไม่รู้เมื่อซื้อมาแล้วต้องเผชิญชะตากรรมอะไรอีกบ้าง ทั้งภาวะเศรษฐกิจการลงทุนที่ง่อนแง่นอยู่แล้ว และความเสี่ยงด้านความเชื่อมั่นที่มีต่อหุ้นไอพีโอ . สมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินชั้นนำ ระบุว่า . “การลงทุนหุ้นไอพีโอในปัจจุบัน หากคาดหวังให้มีความคึกคัก แบบในยุคดอกเบี้ยต่ำ เศรษฐกิจปกติคงเป็นไปได้ยาก คงต้องรอให้สถานการณ์ทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวอย่างชัดเจน และเอื้อต่อการลงทุนมากกว่านี้ . อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้นไอพีโอยังสามารถลงทุนได้ แต่นักลงทุนต้องปรับเปลี่ยนมุมมองการลงทุน ไม่ใช่คาดหวังทำกำไรจากราคาซื้อขายวันแรกเท่านั้น ควรมองเป็นโอกาสเลือกลงทุนในกิจการที่มีพื้นฐานดี สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคต เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว” . โดยปัจจัยสำคัญที่ควรนำมาใช้พิจารณาก่อนลงทุน ประกอบด้วย . 1. สภาพธุรกิจจริง มีโอกาสเติบโต และสามารถขยายกิจการบนสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้หรือไม่ ไม่ควรเลือกเฉพาะธุรกิจที่โด่งดัง มีชื่อเสียง เพราะส่วนใหญ่ธุรกิจเหล่านี้จะกำหนดราคาหุ้นค่อนข้างสูง 2. การกำหนดราคาเหมาะสมแค่ไหน เมื่อเทียบกับสภาวะตลาด ธุรกิจประเภทเดียวกัน ฐานะการเงิน โอกาสขยายกิจการของบริษัท 3. การกระจายหุ้น กระจุกตัวอยู่กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไปหรือไม่ เพราะหากมีการขายออกมาจำนวนมาก จะมีผลกระทบต่อราคาในตลาด ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณานโยบายการจัดสรรหุ้นให้ดีก่อนตัดสินใจ ข้อมูลจาก: SET / APM Channel / Infoquest

199 views0 comments
bottom of page