top of page

IPO ต้นปีพุ่งเดือด เทรดวันแรกบวกสูงสุดเฉียด 200%


IPO ต้นปีพุ่งเดือด

เทรดวันแรกบวกสูงสุดเฉียด 200%

#จริงๆเราก็ชอบหุ้นไอพีโอแต่ตอนนี้เราชอบเธอมากกว่า

ผู้คร่ำหวอดวงการที่ปรึกษาทางการเงินในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยกล่าวไว้ว่า "หุ้น IPO มีเสน่ห์เสมอ ในทุกภาวะตลาดฯ" ซึ่งใช้ได้จริงเสมอมา...

.

เพราะปีนี้แม้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยจะทรงๆ ทรุดๆ วอลุ่มแห้งเหือด หุ้นไอพีโอกลับโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

.

เข้าสู่เดือนที่ 4 มีบริษัทน้องใหม่เข้าซื้อขาย SETและ mai แล้ว 10 บริษัท

.

คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอกว่า 4 หมื่นล้านบาท มูลค่าการเสนอขายราว 8.5 พันล้านบาท และมูลค่าระดมทุนกว่า 3 พันล้านบาท

.

ทั้งนี้ 8 ใน 10 บริษัทที่เข้าเทรดต้นปี ราคาหุ้นเคลื่อนไหวได้น่าประทับใจ เปิดวันแรกบวกไป 33.74 - 135.56% ปิดเทรดก็ยังยืนระยะอยู่ได้

.

บางบริษัทปิดเทรดสูงสุดระดับ 169.94% เลยทีเดียว ขณะที่ระหว่างวันมีบริษัทที่สามารถทำราคาขึ้นไปได้สูงสุดถึง 189% (APO)

.

จากการสอบถามความเห็นนักวิเคราะห์และผู้เกี่ยวข้องในวงการไอพีโอ ได้ใจความว่า สาเหตุสำคัญที่หุ้นไอพีโอโชว์ผลงานได้ค่อนข้างดีต้นปีนี้ ประกอบด้วย

 .

1. หุ้นในตลาดความน่าสนใจลดลง จากภาวะตลาดที่ค่อนข้างซึมจนเกือบเศร้า นักลงทุนจึงมองหาทางเลือกใหม่ ๆ อย่างหุ้นไอพีโอ

 .

2. การกำหนดราคาเสนอขายทำได้อย่างเหมาะสม ไม่แพงเกินไป มีส่วนลดให้กับนักลงทุน

 .

3. ราคาเปิดซื้อขายส่วนใหญ่ไม่สูงเกินไป มีช่องให้สามารถเข้าไปเก็งกำไรได้

 .

4. หลายธุรกิจมีความน่าสนใจ อยู่ในเทรนด์แห่งอนาคต

.

ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าหุ้นไอพีโอถัดจากนี้จะรักษาโมเมนตั้มได้ต่อเนื่องหรือไม่ โดยเดือนนี้มีอีก 2 รายที่เตรียมเข้าซื้อขาย คือ

1."นีโอ คอร์ปอเรท (NEO)" ผู้ประกอบธุรกิจทำการตลาด, ผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน

.

ของใช้ส่วนบุคคล และของใช้สำหรับเด็ก เตรียมเข้าเทรด 9 เม.ย.นี้ ขายไอพีโอ 87.5 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 39 บาท

 .

2."เทอร์ราไบท์ พลัส (TERA)" ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์เครือข่ายไอที และให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ แบบครบวงจร

.

เตรียมเข้าเทรด 24 เม.ย.นี้ ขายไอพีโอ 90 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.75 บาท ซึ่ง ณ ราคาดังกล่าวคิดเป็นระดับ P/E เพียง 14.5 เท่า

.

สำหรับเทคนิคการเลือกลงทุนหุ้นไอพีโอ นักวิเคราะห์ แนะนำว่า ต้องพิจารณาปัจจัยพื้นฐานควบคู่กับการวิเคราะห์ราคาเสนอขายว่ามีความถูกหรือแพงแค่ไหน

.

นักลงทุนต้องทำการบ้านเพื่อหาจุดดุลยภาพของราคาหุ้นแต่ละบริษัทที่สนใจเข้าไปลงทุนให้ดี เพราะช่วงแรกที่หุ้นเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนใหญ่ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท

.

ต้องรอผ่านไปสักระยะ ราคาหุ้นถึงจะกลับเข้าสู่พื้นฐานที่แท้จริงของบริษัท ส่วนสายเก็งกำไรต้องมีวินัยในการเทรด อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจ...

204 views0 comments
bottom of page