JKN เพิ่มทุน
ผิดตรงไหน ?
#เพิ่มทุนก็เพื่อพยุงธุรกิจมีชีวิตก็เพื่อดูแลคุณ
.
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาข่าวการเพิ่มทุนของ JKN (บมจ. เจเคเอ็น โกลบอลกรุ๊ป) ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันค่อนข้างโหดร้าย ราคาก็ร่วงโหดร้ายไม่แพ้กัน
.
เหตุมาจากการประกาศเพิ่มทุนจำนวน 3 พันล้านบาท ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมอัตราส่วน 1:1 ที่ราคา 3 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาในกระดาน
.
วัตถุประสงค์การเพิ่มทุนครั้งนี้ “ใช้หนี้” เป็นส่วนใหญ่ รองลงมา คือ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และเป็นงบลงทุน
.
จริงๆ การเพิ่มทุนลักษณะนี้มันไม่ได้ผิดแต่อย่างใดนะครับ หลายบริษัทที่ขายไอพีโอเข้ามาก็มีวัตถุประสงค์ตามสูตรนี้เด๊ะ !!
.
หรือแม้แต่บริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลายแห่ง ก็เพิ่มทุนไปลดภาระหนี้ เป็นเงินหมุนเวียน อยู่บ่อยครั้ง และก็สามารถเพิ่มทุนสำเร็จด้วย
.
“การเพิ่มทุนไปใช้หนี้” ไม่ได้ผิด เป็นเรื่องดีกับกิจการในหลายแง่มุม อาทิ ลดภาระต้นทุนทางการเงินที่ต้องแบกรับ เพิ่มความสามารถทำกำไร เพิ่มสภาพคล่อง สร้างโอกาสให้บริษัทสามารถใช้แหล่งเงินอื่นๆ ในการขยายธุรกิจได้มากขึ้น
.
วงจรทั้งหมดนี้ถ้าผู้บริหารต่อครบทุกขั้ว ดำเนินการอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมา ผลประโยชน์จะเกิดกับผู้ถือหุ้นที่ใส่เงินเข้ามาด้วยเช่นกัน
.
แต่เคสของ JKN นั้นแตกต่างไป หากลองไปสำรวจเม้นท์ในโซเชียลของสำนักข่าว เพจ กลุ่มการลงทุนต่างๆ จะพบว่า โดนถล่มยับ
.
จุดตายที่สำคัญ คือ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อผู้บริหาร ซึ่งที่ผ่านมาฝากลีลาไม่น่าประทับใจไว้หลายครา
.
อาทิ สตอรี่และเป้าหมายเล่นใหญ่แต่ผลประกอบการยังสวนทาง / ชี้นำราคาหุ้นและกำไรบริษัทตัวเองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ / ประกาศอย่างหนักแน่นไม่มีการเพิ่มทุน / แอบขายหุ้นตัวเองมากถึง 70 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10% ก่อนมีการประกาศเพิ่มทุน
.
มันก็ดูแหม่งๆ นะครับ ใครเห็นก็คงบอกว่า คิดดีไม่ได้จริงๆ
.
แม้ตอนนี้ JKN จะพยายามให้ข้อมูล ให้ความมั่นใจ ต่อการเพิ่มทุน การขยายธุรกิจ การเติบโตอย่างมหาศาลในอนาคตออกมารัวๆ ก็คงไม่ทันแล้วล่ะครับ ความเชื่อมั่นหรือการให้ราคา มันไม่ได้เกิดเพิ่มขึ้นตามข้อมูลที่ถูกปล่อยออกมาแก้ไขแต่อย่างใด
.
#เสี่ยวCREW ฝากไว้ให้คิด กรณีนี้น่าจะเป็นเคสตัวอย่างที่ดีกับนักลงทุนให้เลือกหุ้นอย่างมีสติมากขึ้น
.
ขณะที่บริษัทจดทะเบียนเองจะดำเนินการใดๆ พูดอะไรออกจากปาก ก็ควรคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดตามมาให้มากๆ ไม่ต้องอยากเฉิดฉายก่อนเวลาอันควร งบดีจริง ของดีจริง เดี๋ยวก็เฉิดฉายเองแหล่ะ