นโยบายการเมือง กระตุ้นหรือทำลายเศรษฐกิจ #ไม่ว่าเธอจะเลือกพรรคไหนขอให้เธอพักใจไว้ที่เรา
สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ / ลดค่าก๊าซ น้ำมัน ไฟฟ้า ทำได้ทันที / พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท / . ยกเลิกแบล็คลิสต์ บูโร / ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน / เปลี่ยนรัฐบาลไม่พอ ต้องเปลี่ยนประเทศ ฯลฯ . นโยบายหาเสียง เอาใจพ่อแม่พี่น้องประชาชนของแต่ละพรรคการเมือง เริ่มดาหน้ากันออกมาแล้วนะครับ . คำสวยหรู ปลุกใจ วาดฝัน ไหว้ย่อ กราบงาม รักชาติ นอบน้อมเก่ง ทำงานเพื่อประชาชน ฯลฯ คงทยอยให้เห็นหนาตามากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงต่อจากนี้ . #เสี่ยวCREW ก็อยากให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณกันมากหน่อย ถี่ถ้วนหน่อยแล้วกันครับ ว่า สิ่งที่พวกนักการเมืองเหล่านั้นกล่าวออกมาทำได้จริงหรือไม่ . เมื่อทำแล้ว ส่งผลดี หรือ ผลเสีย ต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาวมากกว่ากัน บางอย่างฟังดูดีเหมือนจะช่วยแก้ปัญหา แต่เอาเข้าจริงมันก็แค่ประชานิยมบ้าบอ ที่จะสร้างปัญหามากขึ้นอีก . ผู้ว่าแบงก์ชาติ ได้เตือนถึงสิ่งเหล่านี้ไว้อย่างหนักแน่นเมื่อปลายปีที่แล้ว ว่า พรรคการเมืองไม่ควรดำเนินนโยบายแปลกๆ . ประเทศไทยความเสี่ยงจากต่างประเทศน้อย เพราะพื้นฐานเข้มแข็ง แต่ถ้าไปทำอะไรที่สร้างความเสี่ยงขึ้นมาเองก็จะทำให้ สถานการณ์เปลี่ยน . นโยบายหลายอย่างอาจฟังดูดีในระยะสั้น แต่จะมีผลข้างเคียงในระยะยาว ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในโลกเราคงทำอะไรไม่ได้ แต่เราอย่าสร้างความเสี่ยงภายในเพิ่มขึ้น . การดำเนินนโยบายของประเทศไทย จังหวะนี้ต้องเน้นเรื่องเสถียรภาพมากกว่าเรื่องการกระตุ้น แม้เศรษฐกิจจะฟื้นช้าแต่ก็ฟื้น . การออกมาตรการกระตุ้นตลอดเวลาเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะถ้าไม่สนใจเรื่องเสถียรภาพจะทำให้เกิดผลกระทบกับตลาด . ฝ่ายการเมืองต้องไม่ออกนโยบายแปลกๆ ที่ทำให้มีผลข้างเคียง มาตรการการคลังต้องมี แต่ต้องเน้นการดูแลกลุ่มเปราะบาง เป็นการทำเฉพาะจุด . แต่ปัญหา คือ ส่วนมากที่ออกมาเป็นมาตรการเหวี่ยงแห ซึ่งไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย โออีซีดีประเมินออกมาทั่วโลกทำแบบนี้กว่า 90% . อย่างไรก็ตาม นโยบายแปลกๆ ที่สร้างผลเสียให้ระบบดังที่ผู้ว่าแบงก์ชาติได้เตือนไว้นั้น อาจมีประโยชน์กับหุ้นบางตัว . ถ้าใครจำ “นโยบายรถคันแรกได้” จะรู้ว่ามีหลายกลุ่มธุรกิจทีเดียว ที่ได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ หุ้นหลายตัวราคาขึ้นสนุกสนาน ขณะที่หลายคนเป็นหนี้เสียเพราะผ่อนรถไม่ไหว และสร้างปัญหาให้ระบบในที่สุด . ชั่งน้ำหนักกันดีๆ แล้วกันครับ อย่าติดกับอะไรง่ายๆ กันอีกเลย บทเรียนมีให้เห็นจนเบื่อแล้ว แม้แต่รัฐบาลขี้หมาชุดล่าสุดนี้ ยังมิเคยทำได้ตามที่หาเสียงไว้แต่อย่างใด