รวมพล 16 หุ้น สุดเศร้า T T Q1/66 ราคาร่วงหนักเกิน 30% #หุ้นร่วงอาจทำให้วิตกกังวลแต่การคิดถึงใครบางคนอาจทำให้อุ่นใจ
ใกล้จบไตรมาสแรกของปีกันแล้วนะครับ ภาพรวมตลาดหุ้นไทยก็อย่างที่เห็น เจอปัจจัยลบมาทำให้เจ็บซ้ำๆ วนๆ ตั้งแต่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนปี 65 ต่ำคาด ต่อด้วยการขึ้นดอกเบี้ยรัวๆ ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ล่าสุดถูกตบซ้ำด้วยเหตุการณ์แบงก์ล้มทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป . ผลก็คือนักลงทุนต่างชาติกระหน่ำขาย โยกเงินไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า ดัชนี SET Index ที่พึ่งพาวอลุ่มของนักลงทุนกลุ่มนี้ จึงทรุดลงแบบโงหัวไม่ขึ้น ณ 29 มี.ค.66 ปิดที่ 1,610.52 จุด ลดลง 58.14 จุดจากสิ้นปีก่อน หรือติดลบ 3.48% และช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาลงไปต่ำสุดถึง 1,518.66 จุด หรือลดลง 150 จุด จากสิ้นปีก่อน ติดลบถึง 10% . ราคาหุ้นไทยติดลบทั่วหน้าเกือบทุกอุตสาหกรรม ทั้ง SET และ mai มีเพียง 7 จาก 28 หมวดธุรกิจของ SET และ 2 จาก 8 หมวดธุรกิจของ mai ที่ราคาเป็นบวก . หมวดธุรกิจที่ราคาติดลบสูงสุดของ SET คือ บรรจุภัณฑ์ -14.65% รองลงมา คือ เงินทุนและหลักทรัพย์ -10.94% ตามด้วย ประกัน -9.05% . ส่วนหมวดอุตสาหกรรมของ mai ที่ราคาติดลบสูงสุด คือ อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง -13.16% รองลงมาคือ เทคโนโลยี -11.92% ตามด้วย ทรัพยากร -8.31% . ทั้งนี้พบว่าตั้งแต่ต้นปีถึง 29 มี.ค.66 (YTD) มีหุ้นถึง 198 หลักทรัพย์ ที่ราคาปรับตัวลดลงมากกว่า 10% โดยมี 16 หลักทรัพย์ที่ราคาลดลงมากกว่า 30% สูงสุด 44% (ใครถือหุ้นเหล่านี้อยู่ #เสี่ยวCREW ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านไปได้อย่างเข้มแข็ง) . 16 หุ้นดังกล่าว SET ส่งเข้าประกวดรวม 12 บริษัท และ mai ส่งเข้าประกวด 4 บริษัท โดย KGEN หรือ NBC เก่า ติดลบหนักสุด 44% รองลงมาคือหุ้นดังเมื่อปลายปีก่อนอย่าง MORE ติดลบ 42.86% และหุ้นใหญ่อย่าง JMART ที่ติดลบ 41.10% (JMART นี่ลงกันทั้งเครือฯ เช่น SINGER ลงไป 34.61% และ JMT ติดลบ 31.52% ส่วนที่เหลือก็ไม่รอดแค่ติดลบไม่ถึง 30%) . น่าติดตามกันต่อไปว่า จะมีข่าวร้ายใด ๆ มากระทบตลาดอีกหรือไม่ในระยะถัดไป ที่แน่ๆ รอลุ้นผลประกอบการไตรมาส 1/66 ก่อนเลย หากออกมาต่ำคาด รับรองได้สยองกันอีกรอบแน่ ๆ . อย่างไรก็ตามในมุมของการลงทุนระยะยาว หากหุ้นที่ถืออยู่ผลประกอบการดีมีแนวโน้มเติบโต และจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ก็วางใจได้ เพราะราคาหุ้นมีลงก็ต้องมีขึ้น สุดท้ายราคาจะวิ่งไปหาพื้นฐานเสมอ...