รายย่อยติดดอยกว่า 4 แสนราย
35 หุ้นสยองปี 65 ราคาดิ่งเกิน 50%
#ถ้าอยู่บนดอยแล้วเธอไม่ไหวก็กลับมาหาเราได้นะ
.
ผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (SET Index) ตั้งแต่ต้นปี (YTD) นับข้อมูลถึง 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่าติดลบ 1.46% จากปี 64 ที่บวกไป 14.37%
.
ผลตอบแทนปีนี้ถือว่าไม่ได้แย่นัก เมื่อเทียบกับปัจจัยลบสารพัด ทั้งสงครามและเงินเฟ้อ ถือว่าดีกว่าหลายประเทศชั้นนำและในภูมิภาคที่ผลติดลบกันมากกว่านี้ บางประเทศมากกว่า 10%
.
อย่างไรก็ตามเมื่อสำรวจความเคลื่อนไหวราคาหุ้นรายตัว พบว่า มีถึง 35 บริษัทที่ราคาหุ้น YTD ลดลงมากกว่า 50% สูงสุด 81% .... แบบว่าถ้าหากซื้อหุ้นกลุ่มนี้ตั้งแต่ต้นปี และไม่ขายตัดขาดทุนระหว่างทาง มูลค่าลงทุนจะหายไปเกินครึ่งจนถึงเกือบหมด !!!
.
35 บริษัทดังกล่าว เป็นหุ้นที่จดทะเบียนใน SET จำนวน 22 บริษัท และ mai จำนวน 13 บริษัท โดยเป็นธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม กลุ่ม ไอซีที (SET) และ บริการ (mai) ติดโผมากสุด
.
ทั้งนี้ เกินครึ่งหรือ 21 บริษัท งบการเงิน 9 เดือนปี 65 มีผลขาดทุนตั้งแต่ 24 - 32,601 ล้านบาท ส่วนที่หลือกำไรลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ มีเพียง 2 บริษัทที่กำไรเติบโต
.
และมี 12 บริษัทขาดทุนต่อเนื่องมากกว่า 1 ปี หุ้นส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ถูกตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย "C" เนื่องจากส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียน ทั้งนี้หากงบสิ้นปี 65 ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ มีโอกาสถูกพักการซื้อขายได้
.
นอกจากนี้เมื่อสำรวจข้อมูลจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยของหุ้นทั้ง 35 บริษัท พบว่า มีถึงกว่า 4 แสนราย โดยมี 12 บริษัทที่รายย่อยถือหุ้นเกิน 1 หมื่นราย สูงสุด 6.8 หมื่นราย (STGT)
.
สำหรับนักลงทุนที่คิดจะเก็บของถูก ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบนะครับ เพราะหุ้นกลุ่มนี้มีปัจจัยลบรุมเร้า ที่สำคัญผลประกอบการยังไม่สู้ดีนัก ระวังหากหวังเข้าเก็งกำไร อาจจะเหมือนวิ่งเก็บเหรียญตัดหน้ารถสิบล้อก็ได้นะ ซึ่งหากเบรกไม่ทัน ใส้ไหลแน่นวลล
