“หุ้นเทคฯ” แค่พักฐาน

“หุ้นเทคฯ” แค่พักฐาน หรือฟองสบู่ใกล้แตก #หุ้นเทคอาจไม่น่าลงทุนแต่หน้าคุณช่างน่าลงใจ

“ยุค 90” นอกจากจะเป็นยุคที่มีเพลงจ๊าบๆเต็มไปหมดแล้ว ยังเป็นยุคที่ทุกคนเชื่อว่าธุรกิจอินเตอร์เน็ต จะกลายเป็นธุรกิจแห่งโลกอนาคต ส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีก้าวขึ้นมาผลักดันดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯทะยานอย่างร้อนแรง ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตุถึงสัญญาณอันตรายของมรสุมลูกใหญ่ และสุดท้ายก็ บึ้มม!! กลายเป็นโศกนาฏกรรมวิกฤติฟองสบู่ดอทคอมที่เกิดขึ้นช่วงปี 1995-2000

ภาพวิกฤติครั้งนั้นเริ่มสะท้อนให้เห็นในยุคปัจจุบันแล้วหรือยัง ??

การเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เป็นจุดเริ่มต้นให้หุ้นเทคโนโลยีกลายเป็นหุ้นยอดนิยม เม็ดเงินมหาศาลไหลเข้าไปลงทุน ส่งผลให้หุ้นหลายบริษัทมี P/E สูงลิ่ว หรือบางบริษัทไม่สามารถวัด P/E ได้เพราะขาดทุน แต่หุ้นวิ่งฉิว แต่ช่วงนี้เริ่มเห็นแรงขายอย่างหนัก เกิดเป็นวิกฤติราคาหุ้นเทคโนโลยีช่วงสั้น และหนึ่งในต้นตอสำคัญของการแห่ขายหุ้นเทคโนโลยีรอบนี้ คือ ความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯเร่งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่าฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยีกำลังระเบิดแล้วในปี 2021 และอาจต้องใช้ระยะเวลาอีกนานกว่าจะฟื้นตัว !!

#เสี่ยวCREW เอาความเห็นผู้จัดการกองทุนมาให้เปรียบเทียบกัน ว่า วิกฤติฟองสบู่ดอทคอมปี 2000 มีความแตกต่างกับความกังวลฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยีปี 2021 อย่างไร

1. ความแพงของราคาหุ้นเทคโนโลยีในตลาดหุ้นสหรัฐฯ “NASDAQ” ที่เต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นำของโลก ปัจจุบันค่าเฉลี่ย P/E กลุ่มเทคโนโลยีอยู่ที่ประมาณ 30 เท่า แตกต่างกับยุคเกิดฟองสบู่ดอทคอมที่วันนั้นมีค่าเฉลี่ย P/E กลุ่มเทคโนโลยีอยู่ที่ 200 เท่า !!

2. อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปัจจุบันระยะสั้นใกล้เคียง 0% และตัวปัญหารอบนี้คือดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 10 ปีเร่งขึ้นมาเกือบ 1.6% แตกต่างกับยุคฟองสบู่ดอทคอมที่อัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่ในกรอบ 5-6.5% เป็นการสะท้อนต้นทุนทางการเงินที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ Earning Yield Gap หรือ ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ อยู่ในขั้นติดลบกว่า 3% แปลว่า ตลาดหุ้นมีมูลค่าที่แพงเกินไปและไม่น่าสนใจลงทุน

3. หุ้นเทคโนโลยียุคดอทคอม ปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างกลวง แตกต่างกับนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยนี้ที่พัฒนารวดเร็ว และด้วยภาพของเศรษฐกิจที่กำลังจะฟื้นตัว ตอบโจทย์กระแสเมกะเทรนด์นวัตกรรมเปลี่ยนโลก Disruptive Innovation ดังนั้นการปรับตัวลดลงอย่างหนักของราคาหุ้นเทคโนโลยีรอบนี้อาจเป็นแค่การปรับฐานระยะสั้นๆ เพื่อรอการฟื้นตัวรอบใหม่ คงจะเหมาะสมมากกว่าจะใช้คำว่า "ฟองสบู่หุ้นเทคฯแตกปี 2021" !!

อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษถ้าคิดจะลงทุน!! ราคาหุ้นเทคโนโลยีจะผันผวนมากกว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ เพราะได้รับผลกระทบจากกระแสเงินสดที่จะเติบโตลดลงตามอัตราดอกเบี้ยที่พลิกกลับมาเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น ในปีนี้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอาจไม่ได้เป็นผู้นำตลาดเหมือนในปีที่แล้ว และอาจกลายเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าตลาด นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 63 ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ Bond yield