“หนี้คนไทย” เติบโตอย่างมีศักยภาพ สวนทางเศรษฐกิจ-ความเชื่อมั่น

“หนี้คนไทย” เติบโตอย่างมีศักยภาพ

สวนทางเศรษฐกิจ-ความเชื่อมั่น

#เป็นหนี้มันเหนื่อยนะครับแต่เป็นคนไม่ถูกรักเหนื่อยกว่าเยอะเลย

“การเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ” ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่จะทำให้ตลาดหุ้นขึ้นอย่างยั่งยืน เงินจะไหลเข้าอย่างจริงจังก็ต่อเมื่อ ภาพมันชัด ว่า โตอย่างไร และโตแน่ๆ

.

ดังนั้นไม่น่าแปลกใจที่หุ้นไทยจะไบโพลาร์ในแดนต่ำเตี้ยไปเรื่อเปื่อยแบบนี้ เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มี “ด๋อย”อะไรให้เห็นและจับต้องได้ทั้งในเชิงนโยบายและการปฏิบัติ แถมปีที่แล้วก็ยังโชว์ฟอร์มไว้ต่ำเตี้ย แม้ตัวเลขอย่างเป็นทางการยังไม่ออก แต่คาดการณ์กันว่า GDP น่าจะโตไม่ถึง 2%

.

แต่ไม่เป็นไรครับ แม้เศรษฐกิจเราจะโตต่ำ แต่หนี้ครัวเรือนเราโตสูง เท่ห์ชะมัด !!

.

ข้อมูลของเครดิตบูโร ณ ไตรมาส 4/66 สินเชื่อครัวเรือนคงค้างมีมูลค่ารวม 13.68 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% และคาดว่าในปี 67 หนี้ครัวเรือนจะอยู่สูงกว่า 90% ของ GDP ต่อไป (อันนี้เฉพาะหนี้ในระบบนะครับ)

.

หนี้ระดับนี้ อันตราย !!! เพราะหนี้ครัวเรือนตามมาตรฐานสากลควรไม่เกิน 80% ของ GDP แถมเรายังเป็นประเทศรายได้ปานกลางค่อนไปทางต่ำ การมีหนี้เบิ้มขนาดนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนยาก เติบโตช้า และจมในวังวนหนี้ไปอีกนาน

.

นอกจากหนี้โดยรวมที่เติบโตในเกณฑ์ดีแล้ว หนี้เสีย หรือ “NPL” (ค้างชำระเกิน 90 วัน) ก็ไม่น้อยหน้า เติบโตอย่างมีศักยภาพยิ่งกว่า ณ เดือน ธ.ค. 66 มีมูลค่ารวม 1.04 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% จากปีก่อน

.

Top 5 ของ NPL ประกอบด้วย

     • สินเชื่อส่วนบุคคล 2.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12%

     • สินเชื่อรถยนต์ 2.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 28%

     • สินเชื่ออื่นๆ 2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3%

     • สินเชื่อที่อยู่อาศัย 1.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7%

     • สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ 6.77 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 8.7%

.

ยังไม่พอ !!! หนี้รอเสีย หรือ “SM” (Special Mention ค้างชำระเกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 90 วัน) ก็สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่น ณ เดือน ธ.ค. 66 มีมูลค่ารวม 6.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8% จากปีก่อน

.

Top 5 ของ SM ประกอบด้วย

     • สินเชื่อรถยนต์ 2.08 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7.6%

     • สินเชื่อที่อยู่อาศัย 1.78 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 31.1%

     • สินเชื่อส่วนบุคคล 1.45 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 24.1%

     • สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ 4.05 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.4%

     • สินเชื่ออื่นๆ 2.77 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22.6%

.

ภาพที่เห็นก็เป็นเช่นนี้ อันนี้แค่เรื่องหนี้ของพี่น้องชาวไทย ที่จะไปกระทบกำลังซื้อ กำลังบริโภค ในอนาคตมากขึ้นเรื่อยๆ เพียงเรื่องเดียว หากไปดูภาพอื่นๆ เพื่อเปรียบเทียบเพิ่ม เช่น การส่งออก ศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ธรรมาภิบาลในทุกระบบ ฯลฯ ก็จะยิ่งพบว่า อักเสบมากเหลือเกิน

.

แล้วจะเชื่อมั่นกับอะไรดี ?