หุ้นไทยเข้าภาวะ "ซบเซา" ความเชื่อมั่นนลท.ดิ่ง 23.1% #ถ้าเธอเครียดเพราะตลาดซบเซา #ลองหันมาซบเราแล้วพักใจ
ช่วงนี้ถือเป็นขาลงของตัวเลขเศรษฐกิจ และการลงทุนจริงๆ ล่าสุดดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อตลาดหุ้นไทย ที่จัดทำขึ้นโดยสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) สำรวจจากนักลงทุน 4 กลุ่ม คือ บุคคลในประเทศ / สถาบันในประเทศ / พอร์ตโบรกเกอร์ และ นักลงทุนต่างชาติ . ดัชนีฯ ลดลงเหลือ 64.57 ลดลงถึง 23.1% ต่ำสุดในรอบ 10 เดือน และเข้าเกณฑ์ "ซบเซา" (Bearish) ไปเป็นที่เรียบร้อย . ปัจจัยลบที่ฉุดความเชื่อมั่นอย่างมีนัยสำคัญก็เพียบบบ!! ประกอบด้วย การทยอยขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะนำไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจถดถอยได้ / ภาวะเงินเฟ้อจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ยังพุ่งและฟุ้งอย่างต่อเนื่อง . ความกังวลต่อโควิด-19 สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ที่แพร่กันง่ายมาก นอกจากนี้ยังกังวลต่อนโยบายการเก็บภาษีตลาดทุน เพราะจะทำให้เม็ดเงินไหลออกได้ . ทั้งนี้กลุ่มนักลงทุนบุคคลในประเทศ แสดงความเชื่อมั่นลดลงสูงสุด คือ 33.9% รองลงมาคือกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ลดลง 25.9% และกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ลดลง 4.8% มีเพียงกลุ่มสถาบันในประเทศ ที่ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น 5.9% . สำหรับหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจในช่วงนี้ ได้แก่ แฟชั่น, อสังหาริมทรัพย์, รับเหมาก่อสร้าง, มีเดีย, ปิโตรเคมี, พลังงาน และเหล็ก . อย่างไรก็ตามจากนโยบายการเปิดเมือง เชื่อว่า จะส่งผลให้การท่องเที่ยวฟื้นตัว ซึ่งปกติการท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย โดยกลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจคือ อาหาร, ท่องเที่ยว, ธนาคาร, ประกัน และ พาณิชย์ . ในแง่กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นยังคงผันผวน สายเทรดเดอร์คงต้องมีวินัยไฝ่คุณธรรมในการเทรดมากหน่อย ส่วนสายลงทุนระยะยาว ก็เป็นโอกาสในการหาหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาปรับลงมามาก โดยต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนลงทุนทุกครั้ง ^^