อวสาน 14 หุ้นซิ่ง ดิ่งเกิน 50% รายย่อยติดดอยกว่า 1.6 แสนราย #เราเป็นคนไม่ชอบติดดอยแต่เป็นคนชอบติดเธอ
ช่วงนี้มีหุ้นประเภทอยู่ดี ๆ ร่วงเผละ แบบไร้เหตุผล ไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น !!! เยอะเหลือเกิน สร้างความหวาดผวาให้กับนักลงทุนไม่น้อยเลยทีเดียว . สำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ณ 14 มิ.ย.66 มี 14 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี (YTD) ปรับตัวลงลงมากกว่า 50% โดยเทรดในกระดาน SET จำนวน 8 บริษัท และเทรดใน mai จำนวน 6 บริษัท . ดาวเด่นเป็นกระแสต้องยกให้ STARK เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบเลยว่ามีอะไรในกอไผ่งบการเงินกันแน่ จากหุ้นที่เคยเป็นดาวโรจน์ช่วง 3-4 ปีหลัง เพราะกำไรเติบโตก้าวกระโดดทุกปี . แต่อยู่ดีๆ ก็ช็อตฟีลนักลงทุนด้วยการไม่ส่งงบปี 65 พร้อมกับบอร์ดบริหารลาออกยกชุด เป็นเหตุโดนสั่งหยุดเทรดไปพักใหญ่ แถมสะพัดข่าวลือด้านดาร์ก ๆ เช่น มีการฉ้อโกงกันภายใน หรือ ปั่นงบฯ ดันราคา และสุ่มเสี่ยงเบี้ยวหนี้หุ้นกู้ ซึ่งยังไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริง (ยกเว้นคนใน) . ล่าสุดได้โอกาสกลับมาเทรดอีกครั้ง 1 เดือน เมื่อ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามเงื่อนไขกลุ่มที่เข้าข่ายถูกเพิกถอนเพราะไม่ส่งงบการเงิน ปรากฎว่าวันแรกที่กลับมาราคาดิ่งไปกว่า 90% และยังลงต่อเนื่อง จากหุ้นที่เคยขึ้นไประดับ 5.45 บาทช่วง 3 ปีหลัง ล่าสุดระหว่างที่เขียนบทความนี้อยู่ที่ 0.10 บาทเท่านั้น . เรื่องราวของ STARK ยังไม่จบง่าย ๆ ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบงบจาก Special Audit คาดว่าจะส่งงบได้ มิ.ย.นี้ ซึ่งน่าจะพบข้อเท็จจริงอะไรบ้าง หรืออาจจะเลื่อนส่งงบไปอีกอันนี้ก็ไม่มีใครคาดเดาได้เลย... . ความ STARK ไม่ทันหาย ความ OTO ก็เข้ามาแทรก เพราะล่าสุดราคาหุ้นดิ่งฟลอร์ (30%) ไป 4 วันติด หากรวมทั้งปีนี้ฟลอร์ไปแล้ว 5 ครั้ง และก็เช่นเคยไม่มีใครออกมาเฉลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับหุ้นตัวนี้ น่าแปลกคือ OTO เป็นหุ้น 1 ใน 2 บริษัทกลุ่มนี้ที่มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/66 แต่ราคากลับวิ่งสวนทางแบบดุดันไม่เกรงใจใคร ต้องติดตามกันต่อว่ามีอะไรในเบื้องลึกที่ยังไม่ปรากฎเป็นข้อเท็จจริง . OTO นี่เป็นหุ้นที่้เมื่อต้นปีราคาขึ้นไปถึง 24.4 บาทเลยทีเดียว แต่ไฉนผ่านไปไม่กี่เดือน เหลือล่าสุดที่เพียง 3.86 บาทเท่านั้น !!! . ขณะที่หุ้นใหญ่กลุ่ม JMART และ SINGER ก็ยังลงกันต่อเนื่อง แม้จะมีสาเหตุสอดคล้องคืองบไตรมาส 1/66 ขาดทุน แต่ต้องมีอะไรมากกว่านั้น เพราะราคาไหลลงมาตั้งแต่ปลายปีก่อนแล้ว จากหุ้นที่เทรดระดับ 64 บาท และ 59.25 บาท ตามลำดับ ล่าสุดเหลือเพียง 19.60 บาท และ 11.10 บาท ตามลำดับ เท่านั้น . ยังมี ALL ที่เบี้ยวหนี้หุ้นกู้ MORE ที่มีปัญหาปลายปีก่อน และอีกหลายบริษัทในกลุ่มนี้ที่อาจจะไม่ได้กล่าวถึง แต่เอาเป็นว่าทั้งหมด 14 บจ.นี้ มีผู้ถือหุ้นรายย่อยถือหุ้นรวมกันถึงกว่า 1.6 แสนราย โดยมีถึง 6 บริษัทที่รายย่อยถือหุ้นเกิน 1 หมื่นราย ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้จะรู้สึกอย่างไรกับเงินที่ลงทุนไป . ใครใจถึงขายตัดขาดทุนก็คงเจ็บแต่จบ ๆ ส่วนใครที่ยังยื้อก็คงต้องติดดอยกันยาว ๆ และแน่นอนว่า 11 จาก 14 บริษัท ผลประกอบการขาดทุน และ 1 บริษัทไม่ส่งงบการเงิน เรื่องเงินปันผลคงไม่ต้องพูดถึง . หรือว่าตลาดหุ้นไทยจะเข้าสู่ยุคอวสานหุ้นซิ่ง เพราะจากข้อมูลพบว่ากลุ่มนี้เป็นหุ้นที่วิ่งฉูดฉาดช่วง 3 ปีหลัง หลายบริษัททำ All time High เป็นว่าเล่น ก่อนจะมาทิ้งดิ่งกันแบบนี้ . กลุ่มนักลงทุนชาวสวนก็ต้องระวังไว้หน่อยนะครับ หากอยากเข้าไปเล่นกับหุ้นเหล่านี้ เพราะช่วงขาลงมักไม่มีเหตุผลมาซัพพอร์ตเหมือนขาขึ้น แบบลงแล้วลงเลย ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้ ...